ร.ต.อ.วีระพงษ์ อะภัยวงศ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ภายในลานจอดรถห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีบางพลี ต.บางพลีใหญ่ หลังรับแจ้งพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดแท็กซี่หน้าห้าง พบเพียงกองเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณพื้น ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 ราย ทราบว่าเป็นคนขับแท็กซี่ พลเมืองดีได้ช่วยนำส่งรักษาที่ รพ.บางพลี ซึ่งอยู่ติดกับห้างดังกล่าวไปก่อนแล้ว ซึ่งผู้บาดเจ็บ 2 ใน 3 ราย อาการสาหัส ถูกอาวุธมีดดาบฟันเข้าที่ศีรษะ และลำตัว ส่วนผู้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่ห้างและพลเมืองดี ได้ช่วยกันจับตัวเอาไว้ได้ ในสภาพเลือดของผู้บาดเจ็บท่วมตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ในอาการคล้ายคนคลุ้มคลั่ง พร้อมด้วยอาวุธมีดดาบยาวประมาณ 1 ฟุตที่ใช้ก่อเหตุ อยู่ในสภาพหงิกงอ เจ้าหน้าที่จึงไปสงบสติอารมณ์ที่ สภ.บางพลี ทราบชื่อนายวินัย (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ชาวจังหวัดพิจิตร ซึ่งยังไม่ยอมให้การใดๆ ทั้งสิ้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อน รอการสอบสวน

จากการสอบถามนางสาวคำบง ศรีบุบ อายุ 54 ปี หัวหน้าแม่บ้านของห้างดังกล่าว เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเห็นผู้ก่อเหตุวิ่งถือมีดเข้ามาหาตน แต่ตนวิ่งหนีเข้ามาในห้าง ผู้ก่อเหตุจึงหันไปที่กลุ่มโชเฟอร์รถแท็กซี่ที่นั่งรอลูกค้าอยู่ที่ลานจอดหน้าห้าง โดยผู้ก่อเหตุได้ฟันกลุ่มคนขับแท็กซี่ไม่ยั้ง จนต้องหนีตายกันอลหม่าน แต่มีผู้บาดเจ็บ 3 รายที่หนีไม่ทันถูกฟันเข้าที่ศีรษะและลำตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากที่คนขับแท็กซี่ตั้งสติได้รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของห้างและพลเมืองดี ได้เข้าช่วยกันจับกุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้และใช้เชือกมัดมือมัดเท้าเอาไว้ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

ด้านคนขับแท็กซี่ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่พวกตนและผู้บาดเจ็บกำลังนั่งรอลูกค้าอยู่ที่ลานจอดรถ จู่ๆ ผู้ก่อเหตุได้วิ่งถือมีดเข้ามาไล่ฟัน ซึ่งไม่รู้ว่ามาจากไหนเพราะไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้าผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด หลังจากที่พวกตนตั้งสติได้จึงได้ช่วยกันเข้าจับกุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสอบปากคำผู้ก่อเหตุได้ จึงควบคุมตัวไว้เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อน รอการสอบสวนภายหลัง ซึ่งคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะมีอาการทางสมองหรืออาการทางประสาท เนื่องจากมีดดาบที่นำมาเป็นอาวุธในการก่อเหตุอยู่ในสภาพใหม่น่าจะซื้อมาหรืออาจจะหยิบฉวยมาจากร้านค้าในละแวกใกล้เคียงก่อนที่จะวิ่งเข้ามาก่อเหตุ อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.