ภายหลังจากมีการประชุมหารือระหว่างกรุงเทพมหานครและกรมราชทัณฑ์ เรื่องการดำเนินงานล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำให้กับกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมานั้น ความคืบหน้าเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 20 มิ.ย. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังลงพื้นที่สังเกตการลอกท่อระบายน้ำของกรมราชทัณฑ์ บริเวณถนนประชาสงเคราะห์ ใกล้ตลาดห้วยขวาง เขตดินแดง ว่าวันนี้เป็นวันแรกที่กรมราชทัณฑ์ลงมาลอกท่อระบายน้ำ ตามที่ กทม. ได้ขอความร่วมมือไป ต้องขอบคุณนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่ได้ริเริ่มโครงการนี้ และ กทม.ได้นำมาสานต่อ โดยระยะทางที่มอบให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการมีทั้งหมด 530 กม. คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการ 3 เดือน และ กทม. ยังมีแผนลอกท่อประจำปี 65 อีกประมาณ 2,800 กม.

วันนี้ได้เห็นจุดที่ขยะและไขมันที่เป็นต้นเหตุให้ท่ออุดตันและน้ำท่วมขัง ในส่วนนี้สามารถนำข้อมูลไปทำแผนที่เพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นทาง กทม.ต้องลงมาดูแลปัญหามากขึ้น รวมถึงต้องขอความร่วมมือและปรับความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนให้ช่วยกันรักษาความสะอาด ย้ำว่าไม่ได้โทษใคร ขอให้รู้ต้นเหตุของปัญหา จะได้หาทางร่วมมือแก้ไขกันต่อ เมื่อท่อซึ่งเป็นเส้นเลือดฝอยสะอาดขึ้น จะทำให้น้ำสามารถระบายไปสู่คลอง หรืออุโมงค์ระบายน้ำที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ได้เร็วขึ้น ทำให้การระบายน้ำในภาพรวมดีขึ้น ทั้งนี้ การลอกท่ออาจจะทำให้รถติดบ้างขอให้ประชาชนเข้าใจ

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่ออีกว่า เป็นนิมิตหมายที่ดี กทม. ร่วมกับราชทัณฑ์เพื่อประโยชน์ของ กทม.ที่ดีขึ้น ที่ผ่านมาได้แก้มาหลายเรื่อง ทั้งระบบระบายน้ำ และจุดเปราะบางก็ลงไปแก้ไขแล้วหลายจุด ภาพรวมดูตลอด เดินหน้าแก้ไขปัญหาทุกจุด

สำหรับการลอกท่อระบายน้ำวันนี้ มีอดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. นายโฆษิต สุวินิจจิต มาร่วมดูด้วย พร้อมทั้งนายเผดิมขัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. จากพรรคเพื่อไทย ร่วมลงพื้นที่ โดยนายเผดิมชัยได้ฝากให้ผู้ว่าฯ กทม. เสริมระบบสูบน้ำในคลองห้วยขวาง เพื่อช่วยให้ระบบระบายน้ำในคลองดีขึ้น ซึ่งนายชัชชชาติได้มอบสำนักการระบายน้ำไปดูเรื่องดังกล่าว

นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ กทม. ยังได้พูดถึงมาตรการโควิด-19 จาก ศบค. ว่า ในการประชุมร่วมกันล่าสุด ศบค. ได้เลื่อนการถอดหน้ากากอนามัยในพื้นที่กรุงเทพฯ ออกไป เนื่องจากยังมีผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 บูสเตอร์ เข็ม 3 ไม่มาก เป็นจุดเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดผู้ติดเชื้อได้ จึงให้ กทม. ไปเร่งกระตุ้นเข็ม 3 ให้มากขึ้น ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไปรับวัคซีนบูสเตอร์กันให้มาก อีกทั้งในเรื่องโควิด ยังมีประเด็นเรื่องนักท่องเที่ยวที่มีรายงานว่าเข้ามามากสุดขณะนี้คือ ชาวอินเดีย ซึ่งได้มอบสำนักพัฒนาสังคม และสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว ประสานไปยังสถานทูตอินเดีย จัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นช่องทางช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้น