สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ว่าสุลต่านอิบราฮิม สุลต่าน อิสกันดาร์ เจ้าผู้ครองรัฐยะโฮร์ ทางตอนใต้ของมาเลเซีย ทรงมีพระดำรัสต่อที่ประชุมสภาแห่งรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา ต่อการที่รัฐบาลกลางในเมืองปุตราจายา “ไม่รักษาคำมั่นสัญญา” ที่ให้ไว้หลายเรื่องกับทางการรัฐยะโฮร์ ซึ่งรวมถึงการขยายทางด่วนสายเหนือ-ใต้ของรัฐยะโฮร์ ให้มีความกว้างเป็น 6 ช่องทาง


พระองค์ตรัสต่อไปว่า ระบบโครงสร้างพื้นฐานหลายอย่างของรัฐยะโฮร์ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แต่ยังขาดความสนับสนุนด้านงบประมาณที่เพียงพอ เพื่อการซ่อมบำรุง และการพัฒนาหน่วยงานสำคัญ ที่รวมถึงสำนักงานศุลกากร ศูนย์ตรวจคนเข้าเมืองและสถานกักกันผู้ลักลอบเข้าเมือง


ทั้งนี้ รัฐยะโฮร์ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากส่วนกลาง 4,000 ล้านริงกิตในปีนี้ (ราว 32,134.28 ล้านบาท) สวนทางกับการสร้างรายได้เข้ามาเลเซียปีละเกือบ 13,000 ล้านริงกิต (ราว 104,436.42 ล้านบาท) ถือเป็นหนึ่งในรัฐที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเป็นลำดับต้นของประเทศ


หากสถานการณ์ “ที่ตอบแทนรัฐยะโฮร์ราวกับเป็นลูกเลี้ยง” ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป สุลต่านอิบราฮิมตรัสว่า พระองค์จะทรงถือว่าเข้าข่ายเป็นการที่รัฐบาลกลางละเมิดข้อตกลงสหพันธรัฐมลายา ฉบับปี 2491 และ 2500 ซึ่งนำไปสู่การสถาปนาสหพันธรัฐมาเลเซีย หมายความว่า รัฐยะโฮร์ “มีความชอบธรรมตามกฎหมาย” ที่จะขอแยกออกเป็นรัฐอิสระ


ขณะเดียวกัน สุลต่านอิบราฮิมตรัสสถาปนา เจ้าชายตุนกู อิสมาอิล ไอดริส มกุฎราชกุมารและพระราชโอรส ให้ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการ “ทันที” โดยทรงให้เหตุผลว่า พระองค์ “ทรงอยากพักผ่อน”


อย่างไรก็ตาม ทำเนียบรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอิสมาอิล ซาบรี ยาค็อบ ยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ ต่อท่าทีจากเจ้าผู้ครองรัฐยะโฮร์.

เครดิตภาพ : Facebook/Sultan Ibrahim Sultan Iskandar