จากกรณี ไวท์-ณวัชร์ พุ่มโพธิงาม ดารานักแสดงหนุ่ม ออกมาโพสต์อินสตาแกรม เล่าเรื่องราวที่พ่อแม่เกิดเหตุปะทะกับคู่กรณีกลางท้องถนนขับขี่รถรถยนต์อยู่บริเวณเชิงสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ถนนราชพฤกษ์ ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยเจ้าตัวระบุว่า ทั้งคู่ถูกทำร้ายร่างกาย โดยพ่อโดนต่อย และแม่ถูกตบ พร้อมทั้งโยนของทิ้งลงสะพาน หลังเกิดเหตุนายสุรศักดิ์ พุ่มโพธิงาม พ่อของไวท์ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางกรวย เพื่อดำเนินคดีกับคู่กรณี จากนั้นตำรวจตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถของคู่กรณีที่ก่อเหตุ พบชื่อผู้ครอบครองรถคือ นางพนารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) จึงออกหมายเรียกให้มาสอบปากคำแล้ว ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่ สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี ไวท์ ณวัชร์ พุ่มโพธิงาม ดารานักแสดงชื่อดัง พร้อม นายสุรศักดิ์ พุ่มโพธิงาม อายุ 58 ปี และนางนฤมล อริยานุวัฒน์ ผู้เป็นแม่ และนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย

ฝากแชร์ล่าตัว! ‘ไวท์-ณวัชร์’เล่าเหตุระทึก พ่อถูกขับรถปาดหน้า ซ้ำถูกคู่กรณีชก-ตบแม่จนหูอื้อ

นายสุรศักดิ์ พุ่มโพธิงาม กล่าวว่า วันนี้มาให้ปากคำเพิ่มเติม เหตุการณ์ที่ออกในรายการโหนกระแสไป คือตนไปซื้อ KFC ในปั๊มและกำลังจะออกมา ทางคู่กรณีก็หักหัวรถออกมาเลย เราทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้บีบแตรใส่กัน ไม่รู้สาเหตุมาจากเพราะอะไร ไปถึงถนนใหญ่ก่อนลงอุโมงค์พระรามห้า คู่กรณีก็ขับมาจี้ท้ายรถตนเลยขับหนี และเบรกเพื่อให้เขานำหน้าไปตามในคลิป และเขาก็ชะลออยู่ขวา ทางตนอยู่ซ้าย พอเขาเห็นก็เบี่ยงขวามาตัดหน้าและเบรกเพื่อให้ตนชนท้ายและลงมาทำร้ายร่างกายตน เหมือนมีของแข็งโดนที่หัวตน ซึ่งตนได้ผลักคู่กรณีออกไป และได้มีการต่อสู้กันเพื่อป้องกันตัว หลังจากนั้นตนมาที่ สภ.บางกรวย และได้กล้องมาจากแท็กซี่แต่เห็นป้ายทะเบียนไม่ชัด เลยไล่หาดูและไปได้จากปั๊ม ซึ่งปั๊มให้ความร่วมมืออย่างดี

ด้านนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ กล่าวว่า ในเบื้องต้นมีหลายฐานความผิด มีพยานให้การสอดคล้องกันว่า คู่กรณีมีอาวุธ มีค้อน รอผลการตรวจร่างกาย ตอนนี้มีอาการมึนอยู่ เบื้องต้นผลตรวจร่างกายออกแล้ว แต่อยากตรวจซ้ำ เพราะมีอาวุธที่เป็นค้อน ตอนนี้อยู่ที่พนักงานสอบสวนแต่จะมีข้อสรุปวันนี้ ทั้งนี้เท่าที่ทราบจากข่าวคือ ฝั่งคู่กรณีมีประวัติการรักษาตัวทางจิต แต่ยังคุยรู้เรื่อง สามารถคุยตอบโต้กันได้ และเคยเกิดเหตุลักษณะแบบนี้เมื่อหลายปีก่อนมาแล้วครั้งหนึ่ง อยากให้ผู้ปกครองของคู่กรณีนำไปดูแล เพราะผู้ป่วยต้องได้สิทธิ์รับการรักษา แต่ตอนเกิดเหตุคือ มีสติสัมปชัญญะ

นายไพศาล กล่าวต่อว่า อยากให้ผู้ปกครองไปดูแลกันให้ดีกว่านี้ เพราะเขาทำอย่างนี้หลายครั้ง และในเหตุการณ์มีการทำร้ายคุณแม่ของไวท์ เพียงแค่เข้าไปห้าม มีทั้งเรื่องการข่มขู่ การคุกคาม การทำให้เสียทรัพย์ และการทำร้ายร่างกาย ดูพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อนจากผลทางการแพทย์ แต่มีข้อหาหนักอยู่ อาจจะได้ข้อหาใหญ่ด้วย ทางเราก็ใช้สิทธิ์เรา ให้เป็นตามกระบวนกฎหมาย เพราะไม่เคยมีเหตุบาดหมางกันมาก่อนบนถนน ส่วนฝั่งคู่กรณียังไม่มีการติดต่อมาเจรจา ทราบว่า ทางผู้ปกครอง พ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกเป็นคนดี แต่เขาก็ดูแลไม่ได้ตลอด จึงก็อยากฝากว่า เมื่อมีเรื่องแบบนี้ ก็อยากให้มีส่วนร่วมในการให้เขาไปบำบัดรักษา ส่วนทางตำรวจก็ต้องเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา พิสูจน์ความผิดตามพยานหลักฐานที่มี ทางครอบครัวก็จะดำเนินคดีถึงที่สุด

ขณะที่ไวท์ ณวัชร์ ดารานักแสดง กล่าวว่า กล่าวว่า ตนโพสต์ลงไอจีเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเนื่องจากพ่อกับแม่ตนเป็นผู้ถูกกระทำอย่างที่ทุกคนเห็น ส่วนทีมข่าวได้มาถามว่า ได้เห็นทางคู่กรณีที่เข้ามาคอมเมนต์ในไอจีหรือยัง ตนก็ตอบไปว่า ยังไม่ได้ดู เพราะวันนั้นหลังเกิดเหตุตนได้แต่รับโทรศัพท์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะมันเยอะมาก และคนมาคอมเมนต์เยอะมาก พอว่างตนก็มานั่งไล่ดูและเห็นเขาพิมพ์มาว่า “เดี๋ยวเจอกันในศาล เป็นดาราอย่าโง่” แต่ตนไม่ตอบอะไรเพราะไม่ได้รู้จักกัน.