กลายเป็นประเด็นในโลกออนไลน์มาหลายวันสำหรับเรื่องราวของสาว กระต่าย พรรณนิภา และหนุ่ม ไพบูลย์ แสงเดือน เจ้าของค่ายและผู้จัดการส่วนตัวที่ได้ออกมายอมรับว่าได้มีความสัมพันธ์กันและมีทายาทออกมาหนึ่งคน พร้อมบอกว่าได้เลิกราภรรยาเก่าแล้ว และจดทะเบียนสมรสกับสาวกระต่ายเรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางความดีใจของทุกคน

ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊กของ ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายคนดังก็ได้แชร์ข่าวนี้พร้อมเล่าว่า “การที่ผู้จัดการส่วนตัว มีความสัมพันธ์กับนักร้อง ซึ่งในขณะนั้น ยังเป็นผู้เยาว์ เป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์หรือไม่ ความผิดฐานพรากผู้เยาว์ ที่อายุกว่า 15 แต่ไม่เกิน 18 ปี #แม้เด็กจะเต็มใจไปด้วย_ก็เป็นความผิด เพราะ ความผิดฐานพรากผู้เยาว์กฎหมายมุ่งคุ้มครอง บิดา มารดา ผู้ดูแล ผู้ปกครอง บุคคลที่กล่าวมา จึงเป็นผู้เสียหาย ตามกฎหมายการพรากผู้เยาว์มาเพื่อการอนาจาร หรือร่วมประเวณี ย่อมถือว่าเป็นการพรากมาโดยไม่มีเหตุอันสมควรและหากฝ่ายชาย มีลูกเมียอยู่ก่อนแล้ว ย่อมเป็นที่ประจักษ์ว่า ชายนั้นไม่มีเหตุอันสมควร ที่จะพรากเด็กมา โดยอ้างว่า เพื่ออยู่กินกันฉีนสามีภรรยาได้เลย

คำพิพากษาฎีกา ที่ 2545/2522 จำเลยซึ่งมีภรรยาและบุตรแล้ว นัดพบกับผู้เยาว์ซึ่งเป็นนักเรียนหญิงชั้น ม.ศ.3 อายุ 16 ปี กำลังเรียนอยู่ และได้ร่วมประเวณีกันทุกครั้งที่พบกัน ทั้ง ๆ ที่จำเลยไม่อยู่ในฐานะที่จะเลี้ยงดูผู้เยาว์ฉันสามีภรรยาได้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร

แต่ถ้าพรากมาโดยมีเจตนาเลี้ยงดูเป็นลูกเมีย และขณะนั้น ฝ่ายชายยังไม่มีภรรยา ก็อาจไม่ผิดฐานพรากผู้เยาว์คำพิพากษาฎีกาที่ 894/2538 จำเลยพา จ. ผู้เยาว์ อายุ 17 ปี อยู่ในความปกครองของ ว. ไปค้างคืนนอกบ้าน และ จ. ยินยอมให้จำเลยกระทำชำเราด้วยความสมัครใจโดย จ.กับจำเลยรักใคร่ชอบพอกัน ประสงค์จะเป็นสามีภริยากัน เช่นนี้การกระทำของจำเลย ไม่เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 319 วรรคแรกความผิดฐานพรากผู้เยาว์ เป็นความผิดสำเร็จ และเป็นความผิดต่อพ่อแม่ ของผู้เยาว์แม้ต่อมาชายหญิง จะจดทะเบียนสมรสกัน ก็ไม่ทำให้ความผิดนั้น กลายเป็นไม่ผิดแต่อย่างใด-(มาตรา 319 ผู้ใดพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาท)

งานนี้หลังจากทนายดังแชร์ข้อความดังกล่าวไปแล้วก็ทำเอาชาวเน็ตมาวิจารณ์กันอย่างมากมายทันที

ขอขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ๊ก ทนายเกิดผล แก้วเกิด