เมื่อวันที่ 2 ก.ค. นายภูวนารถ ณ สงขลา นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน กล่าวถึงประเด็น การครบรอบ 25 ปี ฮ่องกงคืนสู่มาตุภูมิจีนการยืนยัน “อนาคตฮ่องกง” กับสังคมโลกว่า ในวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี การกลับคืนสู่มาตุภูมิจีนของฮ่องกง เมื่อวันศุกร์ 1 ก.ค. 2022 ไม่เพียงเป็นการแสดงออกถึงความยินดีของประชากรจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นความยินดีและจับตามองอนาคตของฮ่องกงและจีน ภายใต้หลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” จากผู้คนทั่วโลกอีกด้วย

ในฐานะนายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน นอกจากจะร่วมแสดงความยินดีอย่างยิ่งในครั้งนี้แล้ว ยังยืนยันได้ว่าสื่อมวลชนไทยล้วนให้ความสำคัญกับการครบรอบ 25 ปี กลับคืนสู่มาตุภูมิจีนของฮ่องกง และมีการรายงานข่าวของเหตุการณ์นี้อย่างใกล้ชิด ประการสำคัญที่ทำให้ประเทศไทย และสังคมโลกให้ความสนใจเกี่ยวกับอนาคตของฮ่องกง ก็เนื่องมาจากตลอดมา ฮ่องกงถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การเงิน การค้าและการลงทุน ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงใดๆที่เกิดขึ้น จึงล้วนแล้วแต่มีความสำคัญอย่างที่สุด การกล่าวสุนทรพจน์ ของ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จึงได้รับความสนใจจากทั่วโลกว่าจะมีการยืนยันความเชื่อมั่นให้กับทั้งประชาชนจีนและสังคมโลกได้อย่างไร ซึ่งต้องยอมรับว่า ใจความในการกล่าวยืนยันของ สี จิ้นผิง ได้ทำให้ทั้งโลกเกิดความเชื่อมั่นจากประโยคที่ว่า

新华社照片,香港,2022年7月1日 庆祝香港回归祖国25周年大会暨香港特别行政区第六届政府就职典礼隆重举行 习近平出席并发表重要讲话 7月1日上午,庆祝香港回归祖国25周年大会暨香港特别行政区第六届政府就职典礼在香港会展中心隆重举行。中共中央总书记、国家主席、中央军委主席习近平出席并发表重要讲话。这是习近平监誓,李家超宣誓就任香港特别行政区行政长官。 新华社记者 丁海涛 摄

“….เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า และพิสูจน์ให้เห็นว่า นโยบาย ‘หนึ่งประเทศสองระบบ’ สอดคล้องกับผลประโยชน์มูลฐานของบ้านเมืองและประชาชาติ สอดคล้องกับผลประโยชน์มูลฐานของฮ่องกงและมาเก๊า จึงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากประชาชนจำนวนกว่า 1,400 ล้านคนของมาตุภูมิ และได้รับการยกย่องเป็นเอกฉันท์จากชาวฮ่องกงและชาวมาเก๊า อีกทั้งได้รับความเห็นชอบโดยทั่วไปของประชาคมโลกด้วย จึงไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายอันดีเช่นนี้ กลับจำเป็นต้องปฏิบัติตามให้เป็นเวลายาวนาน…”

สะท้อนชัดด้วยคำยืนยันที่ชัดเจนว่า รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ชุดที่ 6 จะรักษาสถานะการเป็นศูนย์กลางทางการเงิน การขนส่ง และการค้าระดับโลก และดูแลบริหารเศรษฐกิจของฮ่องกงให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ดังเช่นที่เป็นมาตลอด 25 ปี ที่สำคัญในเรื่องของเยาวชนคนรุ่นใหม่ คนหนุ่มสาวฮ่องกง ก็ยังดำรงความสำคัญในแนวนโยบายของจีน โดย สี จิ้นผิง ย้ำถึงความจำเป็นในการสนับสนุนคนหนุ่มสาวฮ่องกงเอาชนะความยากลำบากหลายประการ ทั้งในด้านการศึกษา การจ้างงาน การเริ่มต้นธุรกิจ และการซื้อที่อยู่อาศัย รวมถึงการสร้างโอกาสให้คนรุ่นใหม่มากขึ้น

“…เมื่อคนหนุ่มสาวเจริญรุ่งเรือง ฮ่องกงก็จะเจริญรุ่งเรือง เมื่อคนหนุ่มสาวเติบโต ฮ่องกงก็จะเติบโต เมื่อมีอนาคตสำหรับคนหนุ่มสาว ก็จะมีอนาคตสำหรับฮ่องกงเช่นกัน…” สี จิ้นผิง กล่าวยืนยัน และยังระบุด้วยว่า “…ต้องให้ผู้รักชาติบริหารฮ่องกงอย่างจริงจัง อำนาจการเมืองต้องกุมอยู่ในมือของผู้รักชาติ เพื่อหลักประกันความมั่นของการบริหารฮ่องกง…” ทั้งยังยืนยันด้วยว่า กฎหมายที่มีอยู่เดิมของฮ่องกง จะได้รับการอนุรักษ์และพัฒนา เพื่อให้สังคมของฮ่องกงยังคงมีเสถียรภาพในภาพรวม

สุนทรพจน์ที่ยืนยันทั้งอนาคตของฮ่องกง และบทบาทในการเป็นสะพานเชื่อมโลกของฮ่องกง เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งโลกนั้น จริงๆแล้ว สี จิ้นผิง ไม่ใช่เพิ่งจะกล่าวถึงทิศทางนโยบายจีนเฉพาะในโอกาสนี้ แต่ได้มีการกล่าวอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ล่าสุดในการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 14 ก็ได้กล่าวยืนยันถึงการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนคุณภาพสูง เปิดศักราชใหม่แห่งการพัฒนาของโลก โดยระบุว่า ความร่วมมือของกลุ่มประเทศบริกส์ มีเป้าหมายเพื่อปูทางสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อปูทางสู่ความมั่นคงทั่วโลก

ด้วยเหตุนี้เอง ต้องจดจารึกไว้ว่า การหวนคืนสู่มาตุภูมิของฮ่องกงครบรอบ 25 ปี ในวันนี้ได้เปิดศักราชใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์ของเขตบริหารพิเศษแห่งนี้ ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้า ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับ “ฮ่องกง” ที่จะต้องก้าวเดินไปสู่ความรุ่งโรจน์ให้ได้ตามเป้าหมาย.