เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2565 ตำรวจอินเดียจับผู้ต้องสงสัยว่า อยู่เบื้องหลังคดีฆาตกรรมเจ้าของร้านตัดเสื้อชาวฮินดูในรัฐราชสถาน ซึ่งส่งผลให้สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างชาวฮินดูและชาวมุสลิม ที่เป็นคนกลุ่มน้อยในอินเดียยิ่งตึงเครียดกว่าเดิม จนทางการต้องมีมาตรการจำกัดการเดินขบวนประท้วงและการโจมตีกันบนพื้นที่ออนไลน์ เพื่อไม่ให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

ก่อนหน้านี้ได้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยชาวมุสลิมไปแล้ว 2 คน ซึ่งเป็นผู้ลงมือสังหารเหยื่อและถ่ายคลิปวิดีโอขณะฆาตกรรมไว้ หลังจากนั้นก็นำไปโพสต์ลงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยคนร้ายอ้างว่าเป็นการโต้ตอบผู้ตายที่แสดงออกว่า สนับสนุนการดูหมิ่นพระศาสดามุฮัมมัด ของนักการเมืองรายหนึ่ง

คนร้ายให้การว่า ผู้ตายคือ คานไฮยา ลาล เทลี โพสต์ข้อความบนพื้นที่โซเชียลมีเดียแสดงการสนับสนุน นูปูร์ ชาร์มา อดีตโฆษกหญิงฝีปากกล้าประจำพรรคการเมืองของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ซึ่งแสดงความเห็นในเชิงต่อต้านชาวมุสลิม

นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของอินเดียกล่าวว่า ยังมีคนร้ายชาวมุสลิมอีก 2 คนในพื้นที่รัฐราชสถาน ซึ่งเป็นคนวางแผนสังหาร เทลี ในร้านของเขาในเมืองอุทัยปุระ โดย ปราฟุลลา คูมาร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโสของเมืองอุทัยปุระกล่าวว่า ขณะนี้ทางตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยวางแผนฆาตกรรมไว้ 2 คนและผู้ลงมือฆาตกรรม 2 ราย 

อย่าไรก็ตาม อารตี ซิงห์ หัวหน้าหน่วยตำรวจประจำภูมิภาคกล่าวว่า ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่าสาเหตุที่แท้จริงของฆาตกรรมคืออะไร 

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประท้วงรวมทั้งกลุ่มทนายความบุกเข้าตบหน้าและผลักไสผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คน เมื่อพวกเขาปรากฏตัวต่อหน้าศาลเพื่อรับการพิจารณาคดี

หน่วยสืบสวนกลางแห่งชาติอินเดีย (NIA) ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับแนวหน้าของกระบวนการต่อต้านการก่อการร้ายของประเทศ แถลงว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบการสืบสวนคดีฆาตกรรม เทลี ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อาวุโสของ NIA ในกรุงนิวเดลีกล่าวว่า ทีมเจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำกลุ่มชาวมุสลิมที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คนในเมืองอุทัยปุระ เพื่อค้นหาว่ากลุ่มคนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายกองกำลังมุสลิมหรือไม่

ชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง โดยห่างจากร้านตัดเสื้อของ เทลี เพียง 3 กม. กล่าวว่า พวกเขารู้สึกเครียดและหวาดกลัวว่าจะโดนกลุ่มชาวฮินดูที่ทรงอิทธิพลในอุทัยปุระบอยคอตทางสังคมและเศรษฐกิจ

ด้านคณะกรรมการขององค์กร  All India Muslim Personal Law แถลงว่าเหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่น่าประณามอย่างรุนแรง พร้อมกับเสริมว่าการกระทำดังกล่าวขัดต่อกฎหมายของอินเดียและคำสั่งสอนของชาวมุสลิม

คณะผู้พิพากษาศาลสูงของอินเดียเพิ่งแถลงเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2565 ว่า ชาร์มา จะต้องกล่าวขออภัยคนทั้งประเทศ หลังจากที่เธอแสดงความเห็นซึ่งทำให้ชาวมุสลิมโกรธแค้นและทวีความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้นับถือศาสนาฮินดู-มุสลิม 

นอกเหนือจากเจ้าของร้านเสื้อผู้ตกเป็นเหยื่อฆาตกรรม เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2565 ก็มีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากคำพูดของ ชาร์มา เหยื่อคือนักเคมีในรัฐมหาราษฏระ โดนแทงจนเสียชีวิต โดยฆาตกรอ้างว่า เป็นเพราะผู้ตายสนับสนุนคำพูดของ ชาร์มา ที่ปรากฏในโซเชียลมีเดีย ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับคดีได้ 5 คน และกำลังตามล่าตัวคนลงมือสังหาร

เครดิตภาพ : Reuters