สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ว่าธนาคารแห่งเกาหลี (บีโอเค) รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นตัวเลขทางสถิติที่วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการเฉลี่ยในแต่ละช่วงเวลา และนิยมใช้อย่างกว้างขวางเพื่อคำนวณอัตราเงินเฟ้อ ว่าสถิติประจำเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นสถิติสูงที่สุด นับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2541


ขณะที่ปริมาณทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของบีโอเค อยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2551 แต่ยังคงมากเป็นอันดับ 9 ของโลก โดยอยู่ที่ประมาณ 438,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 15.6 ล้านล้านบาท) และในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา บีโอเคขายเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อดึงเสถียรภาพให้กับเงินวอน ซึ่งอ่อนค่าที่สุด นับตั้งแต่วิกฤติการเงินโลก ระหว่างปี 2551-2552 แต่ไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ ว่าขายออกไปเท่าใด ท่ามกลางการจับตาจากหลายฝ่าย ว่าบีโอเคจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีก


แม้ผู้สันทัดกรณียังคงเชื่อมั่น ว่าเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ ซึ่งมีมูลค่ามากเป็นอันดับ 4 ของทวีปเอเชีย รองจากจีน ญี่ปุ่น และอินเดีย ยังไม่ถึงขั้นเผชิญกับภาวะวิกฤติ ดังเช่นที่เคยเกิดมาแล้วหลายครั้งในอดีต เนื่องจากธนาคารกลางและรัฐบาลสามารถบริหารจัดการหนี้สาธารณะได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าแต่ก่อน


อย่างไรก็ตาม สถิติที่ออกมาจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ผู้นำเกาหลีใต้ ซึ่งเพิ่งเข้ามาบริหารประเทศได้เพียง 2 เดือน และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีแนวทางออกมาอย่างชัดเจน ว่านโยบายในด้านเศรษฐกิจจะเหมือนหรือแตกต่างจากรัฐบาลชุดก่อนหน้าของประธานาธิบดีมุน แจ-อิน มากน้อยเพียงใด.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES