สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ว่า ชาวญี่ปุ่นจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลเดินทางไปยังวัดโซโจจิ ในกรุงโตเกียว เพื่อเคารพศพของอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ซึ่งถึงแก่อสัญกรรมอย่างกะทันหัน รวมอายุได้ 67 ปี จากการถูกลอบยิงสังหาร ระหว่างลงพื้นที่ในเมืองนารา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

นางอากิเอะ อาเบะ ภริยาของอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ นั่งอยู่ในรถซึ่งบรรจุโลงศพของสามี เพื่อย้ายไปประกอบพิธีที่วัดโซโจจิ ในกรุงโตเกียว


ขณะที่พิธีศพของอดีตผู้นำจะมีเฉพาะสมาชิกในครอบครัว นำโดยนางอากิเอะ อาเบะ ภริยา และบุคคลใกล้ชิดเท่านั้น ซึ่งรวมถึงนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ หลังจากนั้นจะมีการเคลื่อนขบวนศพของอาเบะผ่านสำคัญทางการเมืองหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นอาคารรัฐสภา และทำเนียบนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาเบะสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำรัฐบาลยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น คือ 8 ปีกับอีก 8 เดือน ระหว่างปี 2555-2563


ในส่วนความคืบหน้าของการสอบสวนมือปืน คือ นายเทตสึยะ ยามากามิ วัย 41 ปี ข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข่าวด้านการสอบสวนระบุว่า ยามากามิเคยมีแผนลอบสังหารอาเบะโดยใช้ระเบิดทำเองจริง แต่ท้ายที่สุดเปลี่ยนใจมาเป็นการใช้ปืน เนื่องจากไม่ต้องการให้พลาดเป้า และเริ่มหาติดตามกิจกรรมทางการเมืองของอดีตผู้นำญี่ปุ่นตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อหาโอกาสเข้าใกล้ให้ได้มากที่สุด

KyodoNews

ทั้งนี้ ยามากามิยังคงยืนยันแรงจูงใจในการลงมือลอบสังหารอาเบะ คือความชื่อว่า อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นมีความเกี่ยวข้องกับ “องค์กรทางศาสนา” ที่มารดานับถือและบริจาคเงินจนกลายเป็นการสร้างปัญหาให้กับครอบครัว แม้ยามากามิไม่ได้เอ่ยชื่อองค์กร แต่ต่อมา สหพันธ์ครอบครัวเพื่อความสามัคคีและสันติภาพโลก ( เอฟเอฟดับเบิลยูพียู ) ของเกาหลีใต้ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โบสถ์แห่งความสามัคคี” สาขาญี่ปุ่น ยืนยันว่า มารดาของยามากามิ เป็นสมาชิกจริง


โบสถ์แห่งความสามัคคียืนยันว่า อาเบะ “ไม่มีความเกี่ยวข้องในทางใด” และยามากามิไม่ได้เป็นสมาชิกด้วย อย่างไรก็ตาม บนเว็บไซต์ของโบสถ์ยังคงปรากฏข้อมูล ว่าอาเบะเข้าร่วมกิจกรรมของโบสถ์ครั้งหนึ่ง เมื่อเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว และกล่าวชื่นชมการดำเนินกิจกรรมของโบสถ์ ในการร่วมขับเคลื่อนกระบวนการสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี.

เครดิตภาพ : REUTERS