สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ว่า ข้อมูลจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของศรีลังการะบุว่า ประธานาธิบดีโกตาพญา ราชปักษา ภริยา และเจ้าหน้าที่อารักขาอีก 2 คน โดยสารเครื่องบินลำเลียง อันโตนอฟ อัน-32 ของกองทัพศรีลังกา ออกจากท่าอากาศยานนานาชาติบันดารานายาเก ในกรุงโคลัมโบ เมื่อช่วงรุ่งสางของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ไปยังท่าอากาศยานในกรุงมาเล เมืองหลวงของมัลดีฟส์ และเดินทางต่อไปยังสถานที่ซึ่งไม่มีการเปิดเผย


ก่อนหน้านี้ ราชปักษาและคณะพยายามโดยสารเที่ยวบินไปยังนครดูไบ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี ) ถึง 4 ครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำช่องทางพิเศษ ปฏิเสธตรวจลงตราให้ และบอกให้ผู้นำศรีลังกาใช้เคาน์เตอร์ปกติเหมือนประชาชนทั่วไป สร้างความกังวลให้กับผู้นำศรีลังกาและคณะ ว่าอาจได้รับอันตราย

ภาพถ่ายดาวเทียมเผยให้เห็น ผู้คนจำนวนมากรวมตัวอยู่ด้านนอกทำเนียบประธานาธิบดี ในกรุงโคลัมโบ เมืองหลวงของศรีลังกา


ทั้งนี้ ราชปักษาซึ่งไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชน ตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว มีกำหนดลาออกในวันพุธ ขณะที่รัฐสภาของศรีลังกายืนยันกำหนดการเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ ในวันที่ 20 ก.ค. นี้ เพื่อหาบุคคลมารับตำแหน่งแทนราชปักษา ซึ่งบริหารประเทศมาตั้งแต่ปี 2562 ใช้นโยบายประชานิยมหลายอย่าง ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อฐานะทางการคลังของประเทศ และเป็นชนวนของวิกฤติเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดของศรีลังกา ซึ่งยังคงยืดเยื้อจนถึงปัจจุบัน


ขณะที่ชาวศรีลังกาส่วนใหญ่เชื่อว่า ตระกูลราชปักษาที่รวมถึงนายมหินทา ราชปักษา อดีตประธานาธิบดีและอดีตนายกรัฐมนตรี และนายบาซิล ราชปักษา อดีตรมว.กระทรวงการคลัง คือต้นเหตุของความล่มสลายทางเศรษฐกิจ ที่อัตราเงินเฟ้อเมื่อเดือนที่แล้ว พุ่งสูงถึง 54.6%


เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห จะปฏิบัติหน้าที่รักษาการในตำแหน่งประธานาธิบดี จนครบวาระของราชปักษา คือในเดือน พ.ย. 2567 อย่างไรก็ตาม วิกรมสิงเหแสดงความจำนงขอลาออกเช่นกัน.

เครดิตภาพ : REUTERS