เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่สภ.เมืองศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว น.ส.นันท์ (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี มาทำการสอบสวนหลังจับกุมได้ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง บริเวณต.น้ำคำ อ.เมืองศรีสะเกษ เนื่องจากว่า น.ส.นันท์ ได้ลักนม 3 กล่องๆ 13 บาท รวมเป็นเงิน 39 บาท แล้วถูกผู้จัดการร้านสะดวกซื้อจับได้ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย ร.ต.อ.ไพบูลย์ คุณสาร รอง สวป.สภ.เมืองศรีสะเกษ มาทำการจับกุม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
แต่เนื่องจากว่า ร.ต.อ.ไพบูลย์ ทราบว่าทรัพย์สินที่น.ส.นันท์ ลักไปนั้นมีมูลค่าไม่มากนัก อีกทั้งทราบเหตุผลจากน.ส.นันท์ ว่า ต้องการลักเอานมไปให้ลูกดื่มกิน ร.ต.อ.ไพบูลย์ จึงได้นำเอาธนบัตรใบละ 50 บาท ออกมาจะจ่ายเงินให้กับทางร้านแทน แต่ว่าผู้จัดการร้านไม่ยินยอมยืนยันให้จับกุมน.ส.นันท์ ไปดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากทราบว่าเคยก่อเหตุลักทรัพย์มาแล้ว 3 ครั้ง ร.ต.อ.ไพบูลย์ จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น. ของคืนวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา
น.ส.นันท์ เปิดเผยสาเหตุที่ต้องลักนม 3 กล่องว่า เนื่องจากว่าตนมีเงินอยู่ 100 บาท ลูกชอบกินเป๊ปซี่ ชอบกินเบอร์เกอร์ จึงซื้อเป๊ปซี่ 2 ขวด เบอร์เกอร์ 1 อันและเฉาก๊วย 1 ถ้วย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 101 บาท ต่อมาลูกได้ทักทางไลน์มาว่า แม่หิวข้าว ตนจึงเห็นว่าลูกไม่ค่อยกินข้าว อีกทั้งเงินก็น้อยถ้าจะเอาเงินในกระเป๋าไปซื้อนมเพิ่มอีก 3 กล่อง เงินก็จะไม่มีกินในตอนเช้าของวันใหม่ จึงต้องการเก็บเอาเงินใส่กระเป๋าไว้ เงินจำนวนนี้จำเป็นต้องใช้เนื่องจากว่า ต้องการเอาไว้ซื้อข้าวให้ลูกกินในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นจึงตัดสินใจขโมยนม 3 กล่อง ซึ่งเป็นการกระทำที่แย่ๆ แบบนั้น นมจำนวน 3 กล่องๆ ละ 13 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 39 บาท ตอนถูกจับได้ตนตกใจมากและเสียใจมากที่ได้กระทำลงไป สงสารแม่ สงสารพี่และลูกสาวที่จะต้องไม่มีคนเลี้ยงดู
น.ส.นันท์ กล่าวต่ออีกว่า ลูกสาวของตนอายุ 15 ปีแล้ว แต่ว่าเป็นเด็กพิเศษ เรียนหนังสือไม่ทันเพื่อน มีอาการผิดปกติมาตั้งแต่คลอดออกมาแล้ว ตนหย่าร้างกับสามี จึงต้องเลี้ยงลูกคนเดียว ตามปกติแล้วลูกของตนอายุ 15 ปี จะต้องเรียนชั้น ม.4 แต่ว่าต้องเรียน ม.2 อีกทั้งเวลาไปเรียนหนังสือจะต้องถูกเพื่อนบูลลี่เป็นประจำทุกวัน และบางวันก็ถูกเพื่อนแกล้งขังไว้ในห้องน้ำ บางวันก็ถูกเพื่อนลักรองเท้า ทำให้ลูกสาวของตนไม่อยากไปเรียนหนังสือและได้หยุดเรียน ตนสงสารลูกสาวมากจึงต้องดูแลลูกสาวอย่างเต็มที่ตามที่ตนจะทำได้ อีกทั้งเพื่อนของลูกได้มาชวนให้ลูกของตนไปเรียนหนังสือที่ จ.อุบลราชธานี แต่ตนเห็นว่าลูกสาวของตนคงไม่สามารถไปเรียนได้ เนื่องจากว่าสติปัญญาไม่ทันเพื่อน ลูกสาวของตนเรียนช้ามาก จึงพยายามดูแลลูกสาวเนื่องจากไม่ต้องการให้ลูกไปเรียนหนังสือที่ จ.อุบลราชธานี
น.ส.นันท์ ยกมือไหว้กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนกราบขอโทษเจ้าของร้านสะดวกซื้อที่ตนได้เข้าไปลักนมกล่อง 3 กล่อง เพื่อต้องการเอาไปให้ลูกดื่มกิน ตนเสียใจมาก ตนยอมรับสารภาพผิด และจะไม่กระทำผิดแบบนี้อีกต่อไป ซึ่งตนได้รับปากกับ ร.ต.อ.ไพบูลย์ คุณสาร รอง สวป.สภ.เมืองศรีสะเกษ ที่จะจ่ายเงินค่านมให้ทางร้านสะดวกซื้อแทนตนแล้วว่า ตนจะไม่กระทำผิดอีก
ด้าน พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า คดีนี้ตนทราบเหตุและตรวจสอบแล้วเห็นว่า แม้คดีนี้จะเป็นคดีอาญาแผ่นดินต้องหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนซึ่งมีโทษจำคุกสูงถึง 5 ปี และบุคคลอื่นไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง แต่เนื่องจากผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีบุตรที่จะต้องดูแลไม่น่าจะหลบหนี และทรัพย์ที่ลักเอาไปมีมูลค่าเล็กน้อยเพียง 39 บาท หากประกันตัวไปไม่น่าจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและไม่น่าจะเสียรูปคดี เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงได้สั่งการให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาไปจากการควบคุมของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ และสั่งให้ผู้ต้องหามารายงานตัวตามนัดต่อไปแล้ว