จากคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายสังหารพระอาจารย์บัณฑิต สงวนแก้ว หรือ นพ.บัณฑิต สงวนแก้ว หรือที่รู้จักกันในนาม “พระหมอ” อายุ 48 ปี เจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด อ.เมือง จ.อุดรธานี ถูกมือปืนจ่อยิงอย่างอุกอาจ มรณภาพขณะกำลังเดินกลับจากบิณฑบาต เมื่อวันที่ 1 มี.ค.58 ที่ผ่านมา จนล่าสุดวานนี้ (4 ส.ค.) ศาลจังหวัดอุดรธานี ตัดสินประหารชีวิต นายบรรเจิด ฉัตรไพฑูรย์, จำคุกตลอดชีวิต ด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ และ นายปัญจ๋า หรือโบ้ ชารีแสน รับสารภาพให้การเป็นประโยชน์ ส่วน นายบุญนาค หงษาคำ มีคำพิพากษายกฟ้อง ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าหน้า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานย้อนไปถึงปมการสังหาร พระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต หรือ “พระหมอ” โดยย้อนไปถึงประวัติของพระหมอว่า เกิดเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2510 พรรษา 20 สิริอายุรวม 48 ปี บิดาชื่อ หลวงปู่สุข มารดาชื่อ นางรุวณี มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 3 คน จบแพทยศาสตร์บัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เริ่มรับราชการที่ รพ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี ย้ายมาเป็น ผอ.รพ.ไชยวาน จ.อุดรธานี และ ผอ.รพ.นายูง ลาออกจากราชการเพื่ออุปสมบท ณ วัดโพธิสมภรณ์ (พระอารามหลวง) อุดรธานี โดยมีพระอุดมญาณโมลี (หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป) หรือหลวงปู่ใหญ่ เป็นพระอุปัชฌาย์

พระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต หรือ “พระหมอ” มาบุกเบิกสร้างวัด และเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ขณะเดียวกันได้ทำหน้าที่ดูแลสุขภาพหลวงปู่ใหญ่ และดูแลการก่อสร้างพระบรมธาตุธรรมเจดีย์ วัดโพธิสมภรณ์, ปรับปรุงหอเมตตาธรรมบำบัดวิกฤติ (CICU) รพ.ศูนย์อุดรธานี จนเช้าวันที่ 1 มี.ค.2558 เวลาประมาณ 07.20 น. นายปัญจ๋า หรือ โบ้ ชารีแสน ได้ใช้อาวุธปืนสงครามลอบสังหาร ขณะที่ “พระหมอ” กลับจากการบิณฑบาตกำลังจะถึงวัด โดยมี ด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ ดูต้นทางและขับรถ

ต่อมา ชุดสืบสวนได้ทิ้งประเด็นความขัดแย้งเรื่องที่ดินวัด เมื่อพบว่า มีนายบรรเจิด ได้สั่งให้คนสนิทตรวจสอบประวัติ “พระหมอ” ผ่านทางทะเบียนราษฎร์ เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีนี้ด้วย แต่นายบรรเจิดอ้างว่า ที่ให้คนสนิทไปตรวจสอบประวัตินั้น เพราะต้องการบริจาคเงินสร้างหอเมตตาธรรมบำบัดวิกฤติ (CICU) รพ.ศูนย์อุดรธานี

จากนั้น ชุดสืบสวนพบปมว่า มีการเชื่อมโยงไปสู่ “หมอแก้ว” ที่ลาออกจาก รพ.ที่นายบรรเจิดบริหารอยู่ แล้วไปปฏิบัติธรรมที่ “วัดป่าตอสีเสียด” โดย ด.ต.ชาญชัย ซัดทอดไปถึงนายบรรเจิดอ้างว่า “พระหมอ” พฤติกรรมไม่เหมาะสม จึงรับเงินค่าจ้างรวม 250,000 บาท จนถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมผู้ต้องหาเกี่ยวข้อง และของกลางรถปิกอัพ อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้ช่วย ผบ.ตร. (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) เคยเปิดเผยถึงปมสังหารคดีนี้ว่า เป็นเรื่องคนบงการเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องหึงหวง และคิดจึงมีการจัดคนเฝ้าติดตามเช็กประวัติพระหมอ ก่อนจะติดต่อว่าจ้างมือปืน แต่สุดท้ายน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ทีมสืบสวนในครั้งนั้นมี พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ ที่เคยดำรงตำแหน่ง รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ลงมาควบคุมคดีด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง และยังมีนายตำรวจอีกหลายนายที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว และที่ยังมีที่รับราชการอยู่ขณะนี้ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.พีรพงษ์ วงศ์สมาน รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 และ พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น.หัวหน้าชุดเทคนิคและสืบสวน PCT.