สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ผลการหยั่งเสียงรอบรองชนะเลิศภายในพรรคอนุรักษนิยม เพื่อเฟ้นหาผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งจะขึ้นสู่การเป็นผู้นำรัฐบาลคนต่อไป ต่อจากนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ปรากฏว่า นายริชิ ซูนัค อดีต รมว.คลัง ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนมากที่สุด 173 เสียง


ตามด้วย นางลิซ ทรัสส์ รมว.การต่างประเทศ 113 เสียง เฉือนชนะ นางเพนนี มอร์ดอนต์ รัฐมนตรีด้านนโยบายการค้า 105 เสียง เท่ากับว่านับจากนี้เหลือผู้สมัครเพียงสองคน แข่งขันกันต่อในรอบชิงดำ คือ ซูนัค และ ทรัสส์ ซึ่งการลงคะแนนในรอบสุดท้าย จะไม่ได้มาจากการตัดสินโดยสมาชิกสภาสามัญของพรรคอนุรักษนิยมเพียงกลุ่มเดียว แต่จะมาจากสมาชิกพรรคอนุรักษนิยมทั่วสหราชอาณาจักรมากกว่า 200,000 คน และจะประกาศผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 5 ก.ย.นี้


นอกเหนือจากผู้ชนะจะก้าวขึ้นสู่เป็นการดำรงตำแน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 78 ของสหราชอาณาจักร ซูนัค และ ทรัสส์ ต่างจะสร้างประวัติศาสตร์การเมืองหน้าใหม่ให้กับประเทศ โดย ซูนัค วัย 42 ปี จะถือเป็นนายกรัฐมนตรีเชื้อสายฮินดูคนแรกของสหราชอาณาจักร ส่วน ทรัสส์ วัย 46 ปี จะนับเป็นผู้นำหญิงคนที่ 3 ของประเทศ


อย่างไรก็ตาม ผู้นำใหม่ของสหราชอาณาจักรต้องรับ “มรดกทางการเมือง” จากรัฐบาลจอห์นสัน ซึ่งเป็นหนึ่งในภาระหนักหน่วงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ไม่ว่าจะเป็นอัตราเงินเฟ้อรายปี ที่ตอนนี้อยู่ที่ระดับ 11% เงินปอนด์ที่อ่อนค้า และการแข็งข้อของบรรดาสหภาพแรงงาน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเชื่อมโยงกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ที่เป็นผลกระทบสืบเนื่องจากสงครามในยูเครน และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรกับสหภาพยุโรป ( อียู ) หลังเบร็กซิต ที่ยังคงตึงเครียดในหลายประเด็นด้วย.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES