เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่รัฐสภา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังเข้าชี้แจงคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วุฒิสภา ถึงสถานการณ์น้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ของ กทม. ว่า ขณะนี้ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ฝั่งตะวันออก เขตวัฒนา พระโขนง บางนา ถึงเมื่อคืนมีฝนตกหนักถึง 160 มิลลิเมตร เป็นปริมาณที่เยอะที่สุดตั้งแต่ตนเข้ามารับตำเเหน่ง และส่งผลไปยังคลองสายหลักคือ คลองลาดพร้าว คลองแสนแสบ คลองตัน และคลองพระโขนง ที่ระบายน้ำออก ยกตัวอย่างคลองแสนแสบมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น 1 เมตร ภายใน 2 ชั่วโมง 

ทั้งนี้ยืนยันว่าพยายามเร่งระบายน้ำออกทั้งส่วนที่เป็นอุโมงค์และประตูระบายน้ำพระโขนง ซึ่งระบายได้ 255 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประกอบกับช่วงนี้แม่น้ำเจ้าพระยามีระดับน้ำสูง บางคลองจึงเปิดประตูระบายน้ำไม่ได้ จึงต้องใช้ปั๊มน้ำสูบออกแทน ปัจจุบันคลองลาดพร้าวมีระดับน้ำลดลง นาทีละ 3 เซนติเมตร ถือว่าค่อนข้างล่าช้า จึงส่งผลกระทบในพื้นที่ รวมถึงคลองแสนแสบ ที่ส่งผลกระทบในพื้นที่สุขุมวิท ทั้งนี้ยังรู้สึกเป็นห่วงที่จะมีฝนตกเพิ่มขึ้นมาอีกในวันนี้ ส่วนหนึ่งที่ตนเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นคือขยะที่วางกองไว้รอให้รถมาเก็บ แต่พอฝนตกน้ำท่วมก็ไปอุดตันท่อระบายน้ำ จึงฝากให้ประชาชน หากมีขยะที่ต้องวางไว้เพื่อรอรถมาเก็บ ให้เก็บเข้าบ้านมาก่อนช่วงฝนตก เพื่อไม่ให้อุดตันเส้นเลือดฝอยในการระบายน้ำ

“ปัญหาหลักที่เจอเมื่อคืนนี้ คือประชาชนกลับบ้านไม่ได้ ช่วง 5 ทุ่มยังติดอยู่ตามป้ายรถเมล์ และยังมีปัญหารถดับ จึงสั่งการให้ทุกสำนักงานเขต นำรถทั้งหมดที่ขนคนได้ออกมาช่วยเหลือประชาชนในช่วงเย็นวันนี้ และให้แต่ละเขตแจ้งจุดที่ประชาชนมีความยากลำบากในการสัญจร อย่างถนนสุขุมวิท ถนนอ่อนนุช ซอยปรีดีพนมยงค์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ให้มีรถไปช่วยผ่อนผันรถเมล์ที่อาจขาดระยะ โดยให้รถส่งคนเข้าซอย และกทม. พยายามติดต่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นที่มีรถ ให้มาช่วยประชาชน”

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องขอใช้รถของทหารเพื่อขนคนกลับบ้านหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า กำลังดูอยู่ ก็ถือเป็นเรื่องดี เเต่ปัญหาคือเส้นทาง และบางพื้นที่ต้องใช้รถเล็กวิ่งในซอย ซึ่งกำลังประสานขอความร่วมมืออยู่

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ตนกราบขอโทษประชาชน เป็นเรื่องที่ฝนตกหนักจริงๆ คงต่อเนื่องอีกหลายวัน และหนักขึ้นอีก โดยเฉพาะเขตวัฒนา พระโขนง บางนา ลาดกระบัง สะพานสูง ดอนเมือง และถนนสรงประภา ตอนนี้หากใครสามารถเวิร์กฟรอมโฮมได้ก็ขอให้ทำงานอยู่ที่บ้าน เพื่อลดความเสี่ยง พื้นที่ไหนที่มีปัญหาน้ำท่วมให้โทรฯ แจ้งสายด่วน 1555 เพื่อเป็นข้อมูลให้กับ กทม. พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่มีความสามารถในการซ่อมเครื่องยนต์ ออกไปช่วยประชาชนที่เกิดปัญหารถดับ หลังพบว่าเมื่อคืนนี้มีรถดับจำนวนมาก

เมื่อถามว่าปริมาณน้ำในคลองจะค้างอยู่อีกกี่วัน นายชัชชาติ กล่าวว่า หากไม่มีฝนตกลงมาใน 1 วันก็สามารถระบายออกได้หมด พร้อมกันนี้ขอให้คน กทม. เตรียมพร้อมรับมือฝนตกและน้ำท่วมขังในช่วงเย็นวันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันออก หากกลับบ้านเร็วได้ขอให้รีบกลับทันที หากน้ำท่วมเข้าบ้านขอให้วิดออก หากไม่จำเป็นขอให้อยู่ที่บ้าน ตั้งหลักฟังข่าวสาร เพราะการออกจากบ้านมีโอกาสกลับบ้านลำบาก

เมื่อถามเรื่องฝนตกหนักน้ำท่วมนี้ ทำให้เกิดแรงกดดันในการทำงานหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นข้อเท็จจริงที่มาทำงานให้ กทม. เราต้องรู้ ซึ่งปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ต้องทำให้เต็มที่ ถือเป็นบทเรียนว่าจุดไหนเป็นจุดอ่อนที่มีน้ำท่วมขัง ต้องนำมาปรับปรุง เช่น คลองลาดพร้าว ที่ระบายน้ำไปจนถึงอุโมงค์พระโขนงทำได้ช้า ซึ่งกำลังคิดอยู่ว่าจะสูบน้ำระบายน้ำออกไปทางคลองบางซื่อ ส่วนกระแสเรียกร้องให้ตนออกมาช่วยเหลือปัญหาน้ำท่วม เพราะที่พึ่งของประชาชนนั้น ย้ำว่าเป็นหน้าที่ของเราอยู่แล้วไม่ต้องเรียกร้อง เป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯ โดยตรง ที่จะต้องดูแลทุกอย่าง ทีมงานทุกคนก็ต้องลงพื้นที่ 

“เมื่อคืนนี้ผมกลับบ้านประมาณตี 2-3 ตื่นประมาณตีห้า เพราะนอนไม่หลับ เป็นห่วง เช้านี้ฝนยังตกอีกก็ต้องออกไปดู แต่ไม่เป็นไรเพราะชาวบ้านเจอหนักกว่าผมเยอะ ต้องออกไปทำมาหากินต้องขึ้นรถเมล์ เห็นเเล้วเป็นห่วง และให้กำลังใจกับทุกคนให้ผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ สัก 4-5 วัน” นายชัชชาติ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รองประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าหลังจากตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา มีฝนหนักและต่อเนื่องในพื้นที่กรุงเทพฯ ทำให้หลายจุดเกิดน้ำท่วมขัง พรรคพท.โดยส.ส.และ ส.ก.ของพรรคได้ลงพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนโดยทันทีตั้งแต่ช่วงดึกของคืนที่ผ่านมา อาทิ นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม. ที่ลงพื้นดูการระบายน้ำท่วมขังในเขตบางบอน นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. ได้ลงพื้นที่ตามดูปัญหาน้ำในหมู่บ้านรัชดานิเวศน์ พร้อมประสาน ผอ.เขต เพื่อขอให้เพิ่มเครื่องสูบน้ำ นางชญาดา วิภัติภูมิประเทศ ส.ก.เขตคันนายาว และรองประธานสภา กทม. ลงพื้นที่หลายจุดในพื้นที่คันนายาวก่อนเดินทางเข้าประชุมสภา กทม. 

โดยจะนำปัญหาน้ำท่วมขังนี้เข้าไปปรึกษากับสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกัน นายอนุรักษ์ เลิศวัฒนาไพบูลย์ ส.ก.เขตวังทองหลาง ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบเร่งระบายน้ำในสถานีสูบน้ำ น.ส.ปิยะวรรณ จระกา ส.ก.เขตสวนหลวง ที่ลงพื้นที่กับเจ้าหน้าที่ กทม.เพื่อเร่งสูบน้ำ น.ส.นภัสสร พละระวีพงศ์ ส.ก.เขตบางกะปิ ลงพื้นที่พร้อมเร่งประสานงานสำนักงานเขต และสำนักการระบายน้ำ ให้เร่งระบายน้ำในพื้นที่ นายจอห์น พงษ์สิงห์วิทยา ส.ก.เขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ติดตามการเร่งแก้ไขปัญหาน้ำในเขตลาดกระบัง นายประพฤทธ์ หาญกิจจะกุล ส.ก.เขตห้วยขวาง ออกตรวจตามสถานีสูบน้ำและจุดที่สำนักงานเขตห้วยขวางได้ติดตั้งเครื่องสูบแล้วพบว่าเมื่อฝนตกหนักจริงๆ แล้วเครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งเอาไม่อยู่ เมื่อมีเครื่องสูบไฟฟ้าที่ท้ายซอยวัฒนานิเวศน์ 4 แยก 1 เสีย ทำให้สถานีสูบน้ำที่คลองซวดบางจาก เดินเครื่องแค่เครื่องเดียว ทั้งยังพบปัญหาขยะติดหน้าตะแกงด้วย ฯลฯ

ขอบคุณ ผอ.เขต และเจ้าหน้าที่ กทม. ที่ให้ความร่วมมือบูรณาการทำงานกับ ส.ส. และ ส.ก.ของพรรค พท. ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่สำนักระบายน้ำ เจ้าหน้าที่เทศกิจทุกท่านที่ออกมาร่วมมือและแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที หากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ กทม. จุดใดต้องการกำลัง หรือความช่วยเหลือใดๆ สามารถแจ้งไปยัง ส.ส. หรือ ส.ก.ของพรรค พท.ได้ทุกเวลา อย่างไรก็ตาม ขอให้พี่น้องประชาชน เตรียมรับมือกับพายุฝนที่จะมาอีกตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา พร้อมขอให้ กทม. ซึ่งมีพันธกิจร่วมกับกรมราชทัณฑ์เร่งลอกท่อให้ทันในฤดูกาลนี้เพื่อป้องกันปัญหาในระยะยาวด้วย” นางพวงเพชร กล่าว