เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ตึกนิติเวชศาสตร์ รพ.จุฬาฯ ญาติของ น.ส.รำพึง เสือกระจ่าง และนายวิสูตร โตมา คู่สามีภรรยาขายหมูปิ้ง ผู้เสียชีวิตจากเหตุรถยนต์ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สีดำ แหกโค้งพุ่งชนประตูเหล็กของศูนย์อาหารไอซีซี ย่านพระราม 3 เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา เดินทางเข้ารับศพผู้เสียชีวิตบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

ศาลอนุญาตประกันตัว ‘หนุ่มใหญ่’ เมาขับชนร้านหมูปิ้งดับ 2 ศพ

นายวันเฉลิม โตมา อายุ 23 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะนำร่างของพ่อและแม่กลับไปที่ จ.สุโขทัย ส่วนตัวยังรู้สึกแย่กับเหตุการณ์นี้ว่า เหตุใดต้องขับรถทั้งที่มีอาการมึนเมา หลังเกิดเหตุยังทำอะไรไม่ถูก ได้แต่คิดเรื่องของพ่อแม่ โดยตนยังไม่ได้หารือกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด หากผู้ต้องหาจะขอโทษหรือขออโหสิกรรมก็คงไม่ยกโทษให้ จากนี้ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนผู้หญิงที่นั่งรถมากับผู้ต้องหานั้น คาดว่ามีอาการมึนเมาเช่นกัน สำหรับครอบครัวของตนปกติมี 4 คน คือ พ่อ แม่ ตน และน้องชาย ปกติแล้วพ่อและแม่จะเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายในบ้าน ส่วนน้องชายอาศัยอยู่ที่ต่างจังหวัด จากนี้ตัวเองต้องดูแลน้องชายต่อไป และยังติดใจว่าเหตุใดตำรวจจึงทำการตรวจแอลกอฮอล์ผู้ต้องหาล่าช้า

ด้าน นายฉลาด เสือกระจ่าง อายุ 55 ปี ลูกพี่ลูกน้องของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตำรวจควรจะดำเนินการให้รวดเร็วกว่านี้ เพราะหลังเกิดเหตุกลับปล่อยให้ต้องหานั่งอยู่ตามลำพัง ไม่มีตำรวจคอยควบคุมตัว นอกจากนี้ควรปรับปรุงกฎหมายในเรื่องเมาแล้วขับ เพราะไม่เคยมีโทษรุนแรง เกือบทุกครั้งที่เกิดเหตุเมาแล้วขับนั้น เรื่องมักเงียบหายไป โทษก็ไม่หนักทั้งที่มีผู้เสียชีวิต อีกทั้งพวกตนทำมาค้าขาย คงไปสู้คดีกับคนที่มีเงินยาก ลำพังต้องหาเช้ากินค่ำ แต่กลับต้องมาเสียชีวิตเป็นเรื่องที่เศร้ามาก สำหรับร่างของผู้เสียชีวิต เบื้องต้นจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดตาลเตี้ย จ.สุโขทัย แต่ยังไม่ได้มีการกำหนดในเรื่องของระยะเวลาแต่อย่างใด

ขณะที่ นายชลอ เสือกระจ่าง เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู รหัสนคร 58 เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตทั้งคู่มีศักดิ์เป็นญาติของตน โดยทั้งสองมีลูกชาย 2 คน คนเล็กเรียนอยู่ชั้นมัธยม ส่วนคนโตเพิ่งเรียนจบ และเพิ่งสึกจากการบวชทดแทนพระคุณพ่อแม่ได้ไม่นาน ปกติแล้วลูกชายคนโตมักจะมาช่วยผู้เสียชีวิตขายของ แต่วันเกิดเหตุได้กลับบ้านพอดี ส่วนผู้เสียชีวิตเองก็เพิ่งกลับมาค้าขายได้ไม่นาน เพราะที่ผ่านมาต้องกลับไปดูแลแม่ที่ป่วย อีกทั้งก่อนหน้านี้ น.ส.รำพึง เคยกล่าวเหมือนมีลางสังหรณ์ว่า เมื่อลูกชายบวชก็ดีใจและหมดห่วงแล้ว เมื่อประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น