เมื่อวันที่ 6 ส.ค. รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์แนวโน้มการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า สถานการณ์ทั่วโลก 6 สิงหาคม 2564… ทะลุ 201 ล้านไปแล้ว อเมริกาติดเพิ่มกว่าแสนคนอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มระบาดทั่วโลกรุนแรงขึ้น

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 680,657 คน รวมแล้วตอนนี้ 201,620,615 คน ตายเพิ่มอีก 9,663 คน ยอดตายรวม 4,278,712 คน 5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุด ยังคงเป็นเช่นเดิมคือ อเมริกา อินเดีย บราซิล อิหร่าน และอินโดนีเซีย อเมริกา ติดเชื้อเพิ่ม 113,455 คน รวม 36,292,563 คน ตายเพิ่ม 554 คน ยอดเสียชีวิตรวม 631,857 คน อัตราตาย 1.7% อินเดีย ติดเพิ่ม 45,001 คน รวม 31,855,783 คน ตายเพิ่ม 464 คน ยอดเสียชีวิตรวม 426,785 คน อัตราตาย 1.3% บราซิล ติดเพิ่ม 40,054 คน รวม 20,066,587 คน ตายเพิ่ม 991 คน ยอดเสียชีวิตรวม 560,706 คน อัตราตาย 2.8% รัสเซีย ติดเพิ่ม 23,120 คน รวม 6,379,904 คน ตายเพิ่ม 794 คน ยอดเสียชีวิตรวม 162,509 คน อัตราตาย 2.5% ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 26,460 คน ยอดรวม 6,233,876 คน ตายเพิ่ม 52 คน ยอดเสียชีวิตรวม 112,098 คน อัตราตาย 1.8% อันดับ 6-10 เป็น สหราชอาณาจักร ตุรกี อาร์เจนตินา โคลอมเบีย และสเปน ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น
แถบอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย หลายต่อหลายประเทศติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น

หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่ายังคงมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 83.3 ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน ญี่ปุ่นระลอกห้าหนักขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดเพิ่มอีกถึง 14,211 คน สูงสุดเท่าที่เคยระบาดมา เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ เมียนมา เวียดนาม ล้วนติดหลักพันอย่างต่อเนื่อง แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านและอิรักติดกันหลักหมื่น กัมพูชา ลาว และออสเตรเลีย ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน สิงคโปร์ และไต้หวัน ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

…สถานการณ์ของไทยเรา
ขณะนี้มีจำนวนติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 40 ของโลก หากรวมยอดวันนี้ จะแซงเนปาล ขึ้นเป็นอันดับ 39 คาดว่าจะแซงเซอร์เบียและสวิตเซอร์แลนด์ในวันถัดไป จากข้อมูล 222 ประเทศทั่วโลกมีอยู่ 19 ประเทศที่ติดเชื้อใหม่หลักหมื่นต่อวัน ไทยเป็นหนึ่งในนั้น และล่าสุดจำนวนติดเชื้อเมื่อวานของไทยเราอยู่ที่อันดับ 11 และเป็นอันดับ 5 ของเอเชีย วิเคราะห์แนวโน้มการระบาด ตราบใดที่มาตรการยังไม่เข้มข้นพอที่จะตัดวงจรการระบาด จำนวนการตรวจคัดกรองโรคในแต่ละวันยังไม่มากเพียงพอ และวัคซีนประสิทธิภาพสูงมีจำกัด ก็จะทำให้การติดเชื้อจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์แบบนี้จะ “ไม่มีทาง” ที่จะระบุได้ว่าจุดสูงสุดของการระบาดจะเป็นเมื่อใด ยกเว้นกรณีเดียวคือ การหยุดหรือชะลอการตรวจคัดกรอง ซึ่งถือเป็นแนวทางที่จะนำไปสู่หายนะได้ จึงต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง
หัวใจสำคัญในการต่อสู้โรคระบาดครั้งนี้คือ “หยุดนิ่ง ตะลุยตรวจให้มากและต่อเนื่อง แยกกักตัวคนติดเชื้อออกจากคนอื่นๆ และนำส่งเข้าสู่ระบบการรักษา”

การมองเชิงยุทธศาสตร์นั้นมีความสำคัญมาก หากผิดทิศผิดทาง ก็จะเหมือนอยู่ในเขาวงกตจนหมดแรงไปในที่สุด ขณะนี้การระบาดหลักเกิดขึ้นจากการติดเชื้อกระจายไปทั่วในชุมชน และแพร่ระบาดในหมู่สมาชิกภายในครัวเรือน ที่อยู่อาศัย รวมถึงบ้านใกล้เรือนเคียง และเพื่อนสนิทมิตรสหายใกล้ชิด นอกจากนั้นที่พบมากคือในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก ได้แก่ สถานพยาบาล สถานประกอบกิจการโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงงานอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ และแคมป์ก่อสร้าง สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ เรายังไม่หยุดนิ่ง การตรวจแต่ละวันแม้จะเพิ่มขึ้นแต่อยู่ในหลัก 5-8 หมื่นต่อวัน ซึ่งยังไม่มากพอ และมีมาตรการแก้ปัญหาคอขวดสถานพยาบาล โดยไปใช้ home isolation ซึ่งจะพบว่าการบริการยังเป็นไปได้ไม่ทั่วถึง และมีโอกาสที่จะยังเกิดการแพร่เชื้อติดเชื้อในบ้านได้ ด้วยข้อจำกัดของแต่ละครัวเรือน
ที่ควรพิจารณาคือ การล็อกดาวน์แบบจริงจัง ขยายกำลังการตรวจคัดกรอง มุ่งเป้าให้ได้อย่างน้อย 150,000-200,000 ครั้งต่อวัน และการปรับมาตรการ home isolation ให้อยู่ในวิสัยที่ระบบบริการถึงบ้านจะทำได้ เน้นกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว คนอ้วน สตรีตั้งครรภ์ เป็นต้น ส่วนคนที่ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ ที่มีสุขภาพแข็งแรง ควรให้การดูแลใน community isolation เช่น วัด โรงเรียน โรงแรม ค่ายทหาร หรืออื่นๆ เพื่อให้การดูแลแบบกลุ่ม เป็นไปโดยมีประสิทธิภาพและประหยัดทรัพยากรบุคคล มาตรการหากไม่เข้มข้นพอ ศึกจะยืดเยื้อยาวนาน และเกิดผลกระทบต่อทั้งสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม อย่างมากมาย เจ็บยาวนานแต่ไม่จบ และจะทำให้ยากในการเยียวยาฟื้นฟู สำหรับประชาชนอย่างพวกเราทุกคน ขอให้ป้องกันตนเองและครอบครัวอย่าให้ติดเชื้อ ใส่หน้ากากนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า สำคัญมาก