สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ว่า รมว.การต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ และญี่ปุ่น คือนายแอนโทนี บลิงเคน นางจีนา ไรมอนโด นายโยชิมาสะ ฮายาชิ และนายโคอิจิ ฮากิอูดะ พบหารือร่วมกัน ที่กรุงวอชิงตัน เมื่อวันศุกร์ เกี่ยวกับความมั่นคงทางอาหาร พลังงาน และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกลไกทั้งระบบได้รับผลกระทบอย่างหนัก นับตั้งแต่เกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และตอกย้ำด้วยสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่ยังคงยืดเยื้อ


ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองประเทศ เห็นชอบร่วมกันในหลักการ จัดตั้งศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ หรือ ชิพ รุ่นใหม่ แล้วขยายไปสู่การส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทาน

จากซ้ายไปขวา : นายโคอิจิ ฮากิอูดะ นายโยชิมาสะ ฮายาชิ นายแอนโทนี บลิงเคน และนางจีนา ไรมอนโด


ด้านบลิงเคนกล่าวว่า การที่สหรัฐและญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 และ 3 ของโลก จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ต่อการที่ทั้งสองประเทศต้องร่วมมือกัน “เพื่อรักษาเสถียรภาพและปกป้องระเบียบเศรษฐกิจโลก” ซึ่งทุกประเทศมีส่วนร่วมและแข่งขันกันได้ตามกฎเกณฑ์เดียวกัน


ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่การทูตหมายเลขหนึ่งของรัฐบาลวอชิงตันวิจารณ์จีนว่า ดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจแบบ “บีบบังคับและควบคุมอย่างเคร่งครัดทุกกระเบียดนิ้ว” เพื่อกดดันให้แต่ละประเทศยอมประนีประนอมด้านทรัพย์สินทางปัญญา ความมั่นคง และความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจ


แม้ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมอย่างเป็นทางการจากทั้งสหรัฐและญี่ปุ่น เกี่ยวกับศูนย์วิจัยเซมิคอนดักเตอร์ แต่หนังสือพิมพ์นิกเคอิรายงานเพิ่มเติมโดยอ้างแหล่งข่าว ว่าจะตั้งอยู่ที่ญี่ปุ่น และเปิดดำเนินงานภายในสิ้นปีนี้ เพื่อวิจัยและพัฒนาชิพขนาด 2 นาโนเมตร เบื้องต้นตั้งเป้าเริ่มผลิตภายในปี 2568.

เครดิตภาพ : REUTERS