เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 ก.ค. ที่ สน.ตลิ่งชัน น.ส.แพร (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี น.ส.ปุ้ย (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี และ น.ส.เฟย์ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี พีอาร์สถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งย่านถนนพุทธมณฑลสาย 2 เข้าพบ ร.ต.อ.ดนกอหนี ทิ้งหลง รอง สว.(สอบสวน) สน.ตลิ่งชัน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายเอกพล (สงวนนามสกุล) หลังถูกข่มขู่คุกคาม ตามไปเอาปืนจ่อทำร้าย

น.ส.เฟย์ ให้การว่าเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนและเพื่อนรวม 7 คน ซึ่งปกติทำงานเป็นพีอาร์อยู่ที่สถานบันเทิง ถนนพุทธมณฑลสาย 2 ได้รับงานเอ็นเตอร์เทนชงเหล้า ในงานเลี้ยงวันเกิดของ นายเอกพล ช่วงเวลาระหว่าง 21.00-04.00 น. ในราคาหัวละ 3,000 บาท ที่บ้านพักย่านถนนสวนผัก ซอย 19 แขวงและเขตตลิ่งชัน โดยขณะที่กลุ่มพวกตนไปถึงที่งาน พบว่ามีผู้ร่วมงานมากกว่า 30 คน ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น และมีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบไปร่วมอวยพรด้วย เนื่องจากทราบว่า นายเอกพล เป็นนายทุนปล่อยเงินกู้รายใหญ่ในพื้นที่ ครั้งแรกก็ไม่คิดอะไร เพราะพวกตนทั้ง 7 คนมีหน้าที่แค่ไปชงเหล้า พอครบเวลาจ้างงานก็จะเดินทางกลับ

น.ส.เฟย์ ให้การต่อไปว่า แต่พอตกดึก นายเอกพล แสดงท่าทีไม่พอใจ หาว่าพวกตนไม่ดูแลบุตรชายวัย 17 ปี ซึ่งยังสวมชุดนักเรียน และอยู่ในงานเลี้ยงวันเกิดของผู้เป็นพ่อด้วย ตอนนั้น นายเอกพล ซึ่งเมาสุราอย่างมาก มีพฤติกรรมเคี้ยวบางอย่างอยู่ตลอดเวลา ก็ได้แสดงความเกรี้ยวกราด นำกระสุนปืนไม่ทราบขนาด 1 กล่อง ราว 50 นัด มาเทกองไว้บนโต๊ะที่พวกตนนั่งอยู่ ซ้ำยังพูดจาข่มขู่ว่า ตอนนี้มีมาโชว์แค่ลูกปืน ส่วนตัวอาวุธปืนและระเบิดนำไปเก็บไว้หมดแล้ว พวกตนเห็นท่าไม่ดี พอรุ่งเช้าวันที่ 29 ก.ค. เวลาประมาณ 05.00 น. หมดเวลาจ้างงานจึงรีบชักชวนกันเดินทางกลับทันที พอช่วงหัวค่ำวันที่ 29 ก.ค. มีเพื่อนของนายเอกพล ซึ่งรู้จักเพราะพูดจาถูกคอกับตน ภายในงานได้ติดต่อทักไลน์มาหา ขอจ้างตนและเพื่อนอีก 1 คน ให้ไปรับงานชงเหล้าที่ร้านขายอะไหล่รถยนต์ย่านเสาชิงช้า พื้นที่ สน.สำราญราษฎร์ อีกครั้ง ตนไม่เอะใจอะไรจึงรับงานและเดินทางไปถึงที่งาน แต่พอตกดึก นายเอกพล กลับบุกเข้าไปภายในงาน ชักปืนขึ้นมาจ่อตน ให้แสดงความรับผิดชอบเรื่องงานวันเกิดตัวเองที่พวกตนบริการไม่ประทับใจ ตอนนั้นพวกผู้ชายในกลุ่มร้านขายอะไหล่ก็ได้ช่วยกันแย่งปืนและช่วยเกลี้ยกล่อมให้นายเอกพลระงับสติอารมณ์ โดยตนก็ได้กราบขอโทษนายเอกพลไปแล้ว แต่หลังจากวันนั้นนายเอกพลยังไม่ยอมจบ

น.ส.เฟย์ กล่าวอีกว่า กระทั่งวันที่ 30 ก.ค. ตนได้รับการติดต่อจากโมเดลลิ่งคนหนึ่งว่า นายเอกพลอยากให้ตนกับเพื่อนทั้ง 7 คน เข้าไปกราบขอขมาที่บ้าน หรือไม่ก็โอนเงินจำนวน 15,000 บาท ซึ่งเป็นค่าแรงส่วนหนึ่งของพวกตนคืนให้ ตามบัญชีที่ นายเอกพล ให้มา ตนยอมตัดปัญหาโอนเงินจำนวน 15,000 บาทคืนไป แต่หลังจากนั้นช่วงค่ำ นายเอกพล ไปปรากฏตัวตามราวีพวกตนถึงหน้าร้านที่ทำงาน โดยฝากบอกกับพนักงานรักษาความปลอดภัย (การ์ด) ว่า ถ้าพวกตนไม่เข้าไปขอขมาที่บ้าน จะนำอาวุธปืนมายิงกราดหน้าร้าน และหากเจอพวกตนที่ใดก็จะยิงให้ตาย หนำซ้ำยังพูดจาโอ้อวดด้วยว่า รู้จักตำรวจจำนวนมาก เคยยิงตำรวจมาแล้ว และท้าให้พวกตนไปแจ้งความได้เลย ตนกับเพื่อนเห็นว่าไม่น่าจะปลอดภัย จึงทยอยกันเดินทางมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ให้ดำเนินคดีกับนายเอกพล ในข้อหาข่มขู่ฯ จากนั้นตนซึ่งถูกนายเอกพลยกปืนขึ้นจ่อ ในลักษณะนิ้วอยู่ในโกร่งไกปืน จะเดินทางไปแจ้งความต่อที่ สน.สำราญราษฎร์ ในข้อหาพยายามฆ่า

ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติของ นายเอกพล พบว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้วเคยตกเป็นข่าวดัง และถูกตำรวจ สน.ตลิ่งชัน จับกุมหลังร่วมกับพวกรวม 4 คน ควงอาวุธปืนบุกอุ้มชาวบ้านจากในงานบวช ไปทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยครั้งนั้นเจ้าตัวอ้างว่าอุ้มผิดตัว และถูกดำเนินคดีมาแล้ว

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน จึงได้บันทึกคำให้การของผู้เสียหายทั้ง 3 คน เอาไว้ก่อน โดยหลังจากนี้จะรอผู้เสียหายรายอื่นๆทยอยเข้ามาให้การเพิ่มเติม และจะรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนพิจารณาดำเนินการกับผู้ต้องหารายนี้ต่อไป.