สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ลงพื้นที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อชมการแสดงแสนยานุภาพทางทะเล เนื่องในวันกองทัพเรือรัสเซีย ซึ่งตรงกับวันที่ 31 ก.ค. ของทุกปี
หลังเสร็จสิ้นการชมการสวนสนามของทหารเรือ ผู้นำรัสเซียประกาศเตรียมนำขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง “เซอร์คอน” เข้าประจำการ

ในกองทัพเรือ ขณะเดียวกัน ปูตินลงนามในเอกสาร “หลักนิยมทางทหารเรือ” ฉบับล่าสุด ที่มีความยาว 55 หน้า มีสาระสำคัญเกี่ยวกับ เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือรัสเซีย ในการเป็น “มหาอำนาจแห่งท้องทะเล” จากการเป็นประเทศที่มีชายฝั่งทะเลยาวเป็นระยะทางไกลถึง 37,650 กิโลเมตร

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย พล.อ.เซอร์เก ชอยกู รมว.กลาโหม และ พล.ร.อ.นิโคไล เยฟเมนอฟ ผู้บัญชาการทหารเรือ


นอกจากนี้ เนื้อหาในเอกสารดังกล่าวยังระบุอย่างตรงไปตรงมา เกี่ยวกับ “ภัยคุกคามที่สำคัญของรัสเซีย” คือ “นโยบายยุทธศาสตร์ทางทหารของสหรัฐ ที่ต้องการครอบครองมหาสมุทรโลก” และการที่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ยังคงเคลื่อนไหวทางทหารเข้าใกล้พรมแดนทางตะวันตกของรัสเซีย


ทั้งนี้ รัฐบาลมอสโกไม่ลังเลที่จะใช้มาตรการทางทหาร เพื่อปกป้องท้องทะเลที่อยู่ภายในอาณาเขตอธิปไตยของตัวเอง ในกรณีที่ความพยายามทางการเมืองและการทูตไม่ประสบผลสำเร็จ ขณะเดียวกัน รัสเซียยังมุ่งมั่นยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคงในส่วนของทหารเรือ กับอิหร่าน อิรัก ซาอุดีอาระเบีย และอีกหลายประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางด้วย


แม้ไม่มีการกล่าวอย่างตรงไปตรงมาถึงสงครามในยูเครน อย่างไรก็ตาม ปูตินประกาศว่า หลักนิยมทางทหารเรือของรัสเซีย “ครอบคลุมการส่งเสริมความแข็งแกร่งทางยุทธศาสตร์ในทะเลดำ และทะเลอาซอฟ”.

เครดิตภาพ : REUTERS