สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ว่านายกรัฐมนตรียาอีร์ ลาพิด แถลงว่า กองกำลังป้องกันอิสราเอล (ไอดีเอฟ) ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ “อย่างจำเพาะเจาะจง” ต่อเป้าหมายในฉนวนกาซา “เพื่อตัดวงจรของภัยคุกคาม”

หลังจับกุมหนึ่งในสมาชิก “ปาเลสไตน์ อิสลามิก จีฮัด” (พีไอเจ) ซึ่งเป็นพันธมิตรกับกลุ่มฮามาส และเกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรงหลายระลอกในอิสราเอล ที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 ราย

ปฏิกิริยาของชาวปาเลสไตน์ หลังเกิดความเสียหายกับสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ จากการโจมตีแลกหมัดระหว่างกองกำลังป้องกันอิสราเอล กับกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่น


ด้านไอดีเอฟรายงานเพิ่มเติม ว่าปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายหลายแห่ง ที่เกี่ยวข้องกับพีไอเจ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวร่วมของกลุ่มฮามาส รวมถึงอาคารสูงแห่งหนึ่งในเมืองกาซาซิตี ของฉนวนกาซา ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์ ยืนยันผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย รวมถึงเด็กหญิงวัย 5 ขวบ และสมาชิกของพีไอเจ 4 ราย หนึ่งในนั้นคือ นายเทย์เซียร์ จาบารี สมาชิกระดับแกนนำ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ 55 คน


หลังจากนั้นไม่นาน พีไอเจประกาศการยิงจรวดมากกว่า 100 ลูก ข้ามเขตแดนจากฉนวนกาซา พุ่งเป้าเมืองใหญ่หลายแห่งของอิสราเอล รวมถึงกรุงเทลอาวีฟ ส่งผลให้ทางการอิสราเอลเปิดไซเรนเตือนภัยเป็นวงกว้าง และระบบป้องกันขีปนาวุธไอเอิร์น โดม สามารถสกัดกั้นขีปนาวุธเอาไว้ได้ส่วนใหญ่ ส่วนที่เหลือตกในพื้นที่รกร้างห่างไกลชุมชน


ต่อมา กลุ่มฮามาสซึ่งปกครองฉนวนกาซา ออกแถลงการณ์เน้นย้ำ “ความสามัคคี” ของกองกำลังติดอาวุธทั้งหมดในพื้นที่ ขณะที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) วิงวอนคู่กรณีทุกฝ่าย “อดกลั้นในระดับสูงสุด” เนื่องจากสถานการณ์รุนแรงครั้งนี้ เกิดขึ้นประมาณ 3 เดือน หลังครบรอบ 1 ปี สงครามครั้งล่าสุดระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ที่กินเวลานาน 11 วัน เมื่อเดือน พ.ค. 2564 คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์มากกว่า 250 ราย และประชาชนในอิสราเอล 14 ราย รวมถึงแรงงานไทย 2 ราย.

เครดิตภาพ : REUTERS