นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ได้ดำเนินกิจกรรมร่วมดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยตั้ง “โครงการลมหายใจเดียวกัน” เพื่อช่วยเหลือสังคมจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และต่อเนื่องด้วย “โครงการลมหายใจเพื่อน้อง” ช่วยเหลือเยาวชนจากวิกฤติการศึกษา โดยเฉพาะในช่วงชั้นรอยต่อ ได้มอบเงินสนับสนุนแก่ กสศ. เพื่อจัดตั้ง “กองทุนแรกเริ่มศูนย์ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในวิกฤติการศึกษา” งบประมาณ 20 ล้านบาท เบื้องต้นสามารถช่วยเหลือเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางสังคม อย่างน้อย 241 คน ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาในปี 2565

อีกทั้งที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนช่วงชั้นรอยต่อที่มีปัจจัยเสี่ยงด้านเศรษฐกิจกว่า 60,000 คน จาก 17,432 โรงเรียนทั่วประเทศ รวมสนับสนุนการศึกษาแก่เยาวชนภายใต้โครงการลมหายใจเพื่อน้อง รวมทั้งสิ้น 171 ล้านบาท

นอกจากนี้ ปตท. ยังได้เริ่มดำเนินโครงการ “ลมหายใจเพื่อเมือง” สนับสนุนเป้าหมายของกรุงเทพมหานครในการปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น โดย ปตท. ร่วมปลูกต้นไม้  100,000 ต้น ในพื้นที่ของ ปตท. และพื้นที่ของ กทม. เป็นไม้ยืนต้น ไม้พุ่มอายุยาว และไม้เถาที่มีเนื้อไม้ เป็นพันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น ต้นประดู่ป่า ต้นรวงผึ้ง ต้นไทรย้อยใบแหลม นำร่องพัฒนาพื้นที่บริเวณถนนกำแพงเพชร 6 ซึ่งเป็นพื้นที่ของ ปตท. ที่จะพัฒนาใช้ประโยชน์และมุ่งให้เกิดพื้นที่สีเขียวควบคู่กันต่อไปในอนาคต สอดคล้องกับนโยบายการเชื่อมโยงกับพื้นที่สีเขียวของ กทม.

นอกจากจะปลูกต้นไม้ในพื้นที่ของ ปตท. แล้ว ยังร่วมกับ กทม. ปลูกในพื้นที่สวนสาธารณะ เช่น สวนจตุจักร สวนรถไฟ และอีกหลายพื้นที่ที่สำคัญทั่วกรุงเทพฯ เพื่อช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ กักฝุ่นและมลพิษ รวมทั้งยังเป็นการช่วยลดอุณหภูมิรอบพื้นที่ปลูก ให้ร่มเงา เพิ่มความน่าอยู่ให้กับสังคมเมือง รวมทั้งยังร่วมกันปรับภูมิทัศน์เมืองให้เขียว น่าอยู่ยิ่งขึ้น และในอนาคตถ้ามีพื้นที่จะเพิ่มจำนวนเป็น 200,000 ต้นต่อไป   

“การปลูกต้นไม้ 100,000 ต้นในกรุงเทพฯ เป็นความตั้งใจของ ปตท. ที่จะประกาศในเรื่อง Net Zero ซึ่งประเทศไทยได้ประกาศนโยบายเกี่ยวกับ Net Zero ภายในปี 2065  ซึ่งกลุ่ม ปตท. จะประกาศนโยบายเรื่องนี้ให้เร็วกว่าในปี 2065 ปตท. ขอขอบคุณผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการช่วยกันสร้างพื้นที่สีเขียว เพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชนเมือง เพิ่มสร้างสมดุลให้กับสภาพภูมิอากาศของประเทศและของโลก โดย ปตท. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการลมหายใจเพื่อเมือง จะเป็นส่วนช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศน่าอยู่ต่อไป” นายอรรถพล กล่าว

สำหรับการพัฒนาพื้นที่สีเขียว เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของ ปตท. มาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ 1 ล้านไร่ ตั้งแต่ปี 2537 จนแล้วเสร็จในปี 2545 ใน 54 จังหวัด จึงได้รวบรวมการพัฒนาองค์ความรู้มาเป็นสถาบันปลูกป่าและระบบนิเวศ ได้เข้าไปตรวจวัดป่า พบว่า สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 2 ล้านตันต่อปี สามารถปล่อยออกซิเจนเข้ามาสู่อากาศได้ประมาณ 2 ล้านตันต่อปีเช่นกัน

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขอขอบคุณ ปตท. ที่จัดโครงการนี้ขึ้น ถือเป็นโครงการที่ดีมาก ขออย่าหยุดเพียงเท่านี้ ถือเป็นโครงการที่ดีมากๆ ทั้งการดูแลสุขภาพตัวเอง และการดูแลสุขภาพเมือง คือ การปลูกต้นไม้ ทุกอย่างต้องไปด้วยกัน ชีวิตคน ชีวิตเมือง ขอบคุณ ปตท. ที่มีโครงการดีๆ อย่างนี้ขึ้นมา

นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและคืนพื้นที่สีเขียวให้แก่ชาวกรุงเทพฯ