ในประเทศญี่ปุ่นมีธรรมเนียมการประกวดเรียงความเรื่องราวที่เรียกว่า ‘Sakubun’ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ถ่ายทอดข้อมูลที่มาจากเรื่องจริง หรือความเห็นของผู้เขียน ในวิชาภาษาญี่ปุ่นของเด็กประถม มัธยมต้น-ปลาย 

เช่นเดียวกับเรื่องราวของเด็กชาย Sato Koki นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้นำเรื่องราวระหว่างเขาและพ่อ มาถ่ายทอดในเรียงความ จนได้รับรางวัลชนะเลิศจากรัฐมนตรีกระทวงศึกษาธิการ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีเรื่องราวระบุว่า

‘Otosan ni Moratta Yasashii Uso” (เรื่องโกหกจากความใจดีของพ่อ) เรียงความของเด็กชาย Sato Koki ประถมปีที่ 1 จังหวัด Ibaraki ได้รับรางวัลชนะเลิศชั้นประถมจากรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ 

“พ่อต้องไปทำงานไกลมาก ขอให้ลูกอยู่กับแม่อย่างมีความสุขนะ” เป็นคำพูดที่ฝังใจผมมากที่สุด ตอนนั้นผมเพิ่ง 2 ขวบ ผมจำไม่ได้ว่าพ่อบอกกับผมตรง ๆ หรือเปล่า แต่พ่อถ่ายวิดีโอไว้ในสมาร์ทโฟน หยิบมาฟังได้ทุกครั้งที่อยากฟัง

คำพูดที่ฟังดูธรรมดา ๆ นี้ ทำไมถึงฝังใจผมได้นั้นก็เพราะมันเป็นเรื่องที่พ่อโกหกผม หลังจากพ่อพูดเช่นนี้ได้ราวอาทิตย์หนึ่ง พ่อก็ตายจากไป พ่อทิ้งคำพูดนี้ไว้ในวันที่รู้ว่าตัวเองป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล 

พ่อไม่อยากให้ผมเสียใจที่จะไม่ได้เจอพ่อ พ่อจึงโกหก จริง ๆ แล้วการโกหกเป็นสิ่งไม่ดี แต่ผมเชื่อว่าพ่อเป็นห่วงผมจึงยอมโกหก เวลาฟังเสียงพ่อจากวิดีโอ ผมอดเสียใจและอยากเจอพ่อมาก ๆ ไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ความเสียใจอย่างเดียว  

ผมยัง “คิดสู้” ไปด้วยเมื่อคิดได้ว่าพ่ออุตส่าห์โกหกผม ไม่อยากเห็นผมเสียใจ แม้จะรู้ว่าพ่อได้ตายจากไปแล้วจริง ๆ แต่บางครั้งก็อยากให้เรื่องโกหกของพ่อกลายเป็นเรื่องจริง และสักวันหนึ่งผมจะได้เจอพ่อมายืนหน้าประตูบ้านตะโกนเรียก “เปิดประตูด้วย พ่อกลับมาแล้ว” คงเพราะโกหกที่มาจากความรักของพ่อนี่แหละที่ทำให้ผมคิดได้เช่นนี้

ผมมีเรื่องอยากบอกพ่อครับ “พ่อ เรื่องโกหกของพ่อแตกตั้งแต่แรกแล้ว ก็รอบ ๆ ตัวพ่อมีแต่เครื่องมือแพทย์ พ่อก็นอนซมบนเตียง น้ำตาปริ่ม ๆ เสียงก็เศร้า ๆ” ผมบอกตัวเองว่าจะแกล้งทำไม่รู้เช่นนี้ไปตลอดครับ เพราะพ่อยอมโกหกเพื่อผม จิตใจผมจึงเข้มแข็งได้ จากนี้ไปผมจะรักษาคำพูดของพ่อต่อไป จะอยู่กับแม่อย่างมีความสุข ขอบคุณพ่อครับที่โกหกเพื่อผม’

หลังจากที่เรื่องราวของหนุ่มน้อยซาโตะ ได้ถูกเผยแพร่ ชาวเน็ตที่ได้เข้ามาอ่านเรื่องราวของเขา ต่างต้องน้ำตาซึมกับความใจสู้และเข้มแข็งของหนุ่มน้อยที่มีมาตลอดจนถึงวันนี้ สร้างความประทับใจแก่คนที่ได้รับรู้เรื่องราวดังกล่าวอย่างมาก…

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก Japaninfo, Yomiuri Shimbun