จากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมไฟไหม้ เมาน์เทน บี เมืองสัตหีบ จ.ชลบุรี เหยื่อหลายรายที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มออกมาเรียกร้องให้เจ้าของร้าน เร่งเยียวยาช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล เมื่อวันที่ 11 ส.ค. น.ส.อภิญญา มงคลสินธุ์ 28 ปี เพื่อน น.ส.ดิง กิม ลี อายุ 25 ปี หรือคิม (DINH KIM LE) สาวชาวเวียดนาม 1 ในผู้บาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ไฟไหม้ เมาน์เทนบี ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า สนิทสนมกับ น.ส.คิม มานานกว่า 4 ปี เธอเดินทางมาอาศัยในพื้นที่สัตหีบ โดยจะไปๆ มาๆ ระหว่างประเทศไทยกับเวียดนาม เป็นคนหน้าตาดี นิสัยร่าเริง พูดไทยได้ชัดเจน วันเกิดเหตุน้องโทรฯชวนไปเที่ยวร้านที่ถูกไฟไหม้ แต่ตนบอกว่าให้ไปก่อนเดี๋ยวจะตามไป จนมาทราบข่าวว่าร้านดังกล่าวเกิดไฟไหม้ พยายามติดต่อน้องแต่ก็ไม่รับสาย จนมาทราบว่าอยู่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จึงรีบไปดู

‘นาวาโท’ เหยื่อผับมรณะ เสียชีวิตเป็นราย 17 ที่ รพ.ศิริราช

น.ส.อภิญญา เผยอีกว่า เมื่อไปถึงโรงพยาบาลพบว่าน้องนอนรอการรักษาอยู่หน้าห้องฉุกเฉินสภาพเนื้อตัวถูกไฟคลอกทั้งตัวประมาณ 70-80% นอนร้องทรมานด้วยความเจ็บอยู่บนเตียงรถเข็น นาทีนั้นในโรงพยาบาลวุ่นวาย หมอ พยาบาลวิ่งกันให้วุ่นทั้งห้องฉุกเฉิน คนเจ็บนอนเรียงรายรอการรักษาหลาย 10 ราย จึงปรึกษาแพทย์จะพาน้องไปรักษาโรงพยาบาลอื่น ซึ่งทางแพทย์ก็อนุญาต จึงรีบพาขึ้นรถยนต์ส่วนตัว ไปส่งโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งทันที โดยก่อนเข้ารักษาตัวได้วางเงินประกันการรักษาน้องไว้ 50,000 บาท จนน้องได้รับการรักษาตลอดระยะเวลาการรักษา 6 วันที่ผ่านมา ต้องรักษาตัวในห้องปลอดเชื้อโรค โดยไม่ให้เข้าเยี่ยม เวลาเยี่ยมต้องมองผ่านห้องกระจก ยอมรับว่าสงสารมาก เพราะน้องอยู่ในสภาพใส่เครื่องช่วยหายใจแต่น้องรู้สึกตัว และลืมตา ตลอดเวลาที่เข้าเยี่ยม น้องพยายามส่งสัญญาณมือ น้ำตาไหล เหมือนอยากจะบอกอะไรบางอย่าง

น.ส.อภิญญา เผยว่า สำหรับค่ารักษาพยาบาลล่าสุดพุ่งสูงถึง 630,614.80 บาท ตนจึงตัดสินใจพูดคุยกับพี่ชายของน้องคิม เพื่อปรึกษากันว่าจะทำยังไงต่อเพราะค่ารักษาสูงมาก สุดท้ายจึงขออนุญาตโรงพยาบาลย้ายน้องไปรักษาตัวต่อโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งพยายามติดต่อโรงพยาบาลกว่า 10 แห่ง ก็ไม่มีโรงพยาบาลไหนกล้ารับ จนกระทั่งวันนี้โรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชา รับน้องไปรักษาต่อ ส่วนค่ารักษาพยาบาล ของเดิมก่อนจะย้ายตัวญาติของน้องได้จ่ายเพิ่มไปอีก 150,000 บาท อยากวอนขอให้เจ้าของผับดังกล่าวช่วยเยียวยา ค่ารักษาพยาบาลมากว่านี้ โดยก่อนหน้านี้รับมาแล้ว 10,000 บาท ซึ่งไม่พอกับค่ารักษาพยาบาล อีกทั้งน้องเป็นต่างด้าว ไม่มีสิทธิรักษาเหมือนคนไทย ตอนนี้พี่สาวของน้องได้เปิดรับเงินบริจาคในประเทศเวียดนามแล้ว และเป็นกระแสโด่งดังมาก แตกต่างกับประเทศไทยในเรื่องราวของน้องไม่ถูกตีแผ่ ตอนนี้ทุกคนพยายามหาทางช่วยเหลือเพื่อให้น้องได้รับการรักษา แต่หากสุดท้ายไม่มีทางออก จะขอประสานกับสถานทูตเวียดนาม ช่วยเหลือน้องต่อไป

ทั้งนี้สำหรับ น.ส.ดิง กิม ลี อายุ 25 ปี หรือคิม (DINH KIM LE) ชาวเวียดนาม มีพยานหลายคนยืนยันว่า เป็นคนเจ็บรายสุดท้าย ที่ น.ท.ผลิตเดช ชุ่มเงิน ผบ.ฝูง.201 กองบิน 2 กบร.กร (นตท.42 นนร.99) ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวพยายามช่วยชีวิตออกมาจากกองเพลิงจนตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตเป็นรายที่ 17 ซึ่งบรรดาเพื่อนของน้องคิม พอทราบว่า น.ท.ผลิตเดช เสียชีวิต ต่างมีการพูดคุยและขอบคุณในความกล้าของนายทหารนักบิน กองทัพเรือรายนี้อีกด้วย