สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ว่า การคาดการณ์ของมอร์แกน สแตนลีย์ บริษัทให้บริการทางการเงินระดับโลกของสหรัฐ มีขึ้นเมื่อเศรษฐกิจของอินเดียโตขึ้น 9.2% ในปีงบประมาณ 2565 ซึ่งฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการหดตัวที่ 6.6% ในปีที่แล้ว เนื่องจากการล็อกดาวน์ช่วงการระบาดโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ

“การลดภาษีนิติบุคคล, โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการผลิต (พีแอลไอ) และอินเดียในฐานะผู้รับผลประโยชน์ ของการกระจายห่วงโซ่อุปทาน จะกระตุ้นและประคองอุปสงค์ภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการลงทุน” นักเศรษฐศาสตร์ กล่าว

นอกจากนี้ นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ยังคาดการณ์ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดียจะอยู่ที่ 7% โดยเฉลี่ยในปี 2565-2566 และมีส่วนช่วยต่อการเติบโตของเอเชียและทั่วโลกที่ 28% และ 22% ตามลำดับ ทั้งนี้ แม้จะเห็นถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับราคาพลังงานที่สูงขึ้น ซึ่งได้รับแรงกระตุ้นจากสงครามในยูเครน และข้อจำกัดด้านอุปทานยังคงมีอยู่ แต่พวกเขากล่าวเสริมว่า สิ่งเหล่านี้เริ่มที่จะลดลงแล้ว

ขณะที่อินเดีย ซึ่งคาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2565-2566 อยู่ที่ 8-8.5% และขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อเหมือนกับประเทศอื่น ๆ มอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า งบประมาณราว 39.45 ล้านล้านรูปีอินเดีย (ประมาณ 17.5 ล้านล้านบาท) สำหรับปีงบประมาณปัจจุบัน ยังคงเอียงไปทางการเพิ่มการลงทุนภาครัฐ อีกทั้งการบริโภคภายในประเทศจะฟื้นตัว และการส่งออกบริการจะทรงตัวได้ดีกว่าการส่งออกสินค้า.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES