เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการจัดทำร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … ว่า ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการอยู่ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้หารือกับนายตวง อันทะไชย ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ว่าขอให้รีบดำเนินการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ซึ่งหลังจากนั้นหาก พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … ทำเสร็จแล้วจะดีหรือไม่ดี เราค่อยมาปรับแก้ไขภายหลังในรูปแบบกฎหมายลูกได้ ดังนั้นจะต้องมีการบังคับใช้ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … ฉบับนี้ออกมาให้ได้ก่อน ขณะเดียวกันระหว่างรอ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … มีผลบังคับใช้ก็ยังมีกฎหมายอื่นๆใช้ไปก่อน เช่น กฎหมายการศึกษาด้านเด็กปฐมวัย พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ.2562 เป็นต้น ซึ่งยังสามารถช่วยขับเคลื่อนการปฎิรูปการศึกษาบริหารจัดการได้ 

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ส่วนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาค ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีหลักการสำคัญ คือ ให้อํานาจหน้าที่เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ไปเป็นของคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา และการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา ตามมาตรา 53(3) และ (4) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้ผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาและผู้อํานวยการสถานศึกษา แล้วแต่กรณี โดยความเห็นชอบของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา เป็นผู้มีอํานาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งนั้น ซึ่งในประเด็นนี้ตนได้รับรายงานจาก น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ แล้วว่าจะเตรียมรับกฎหมายดังกล่าวอย่างไรบ้าง โดยตนได้ให้ข้อเสนอแนะไปว่าจะต้องมีการเปิดรับฟังความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งและไม่เป็นปัญหาเหมือนในอดีตที่ผ่านมา