นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยภาวะสังคมประจำไตรมาส 2 ปี 65 ว่า ปัญหาการหมดไฟในการทำงานและการลาออกจากงานเพิ่มมากขึ้น ทำให้ขาดแคลนแรงงาน สวนทางความต้องการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ขณะที่หนี้ครัวเรือนปรับตัวลดลง 3.6% จากไตรมาสก่อนหน้าหรือคิดเป็น 89.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือ จีดีพี เนื่องจากผู้บริโภคยังมีความกังวลของการแพร่ระบาดโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว 

ทั้งนี้ปัจจุบันแรงงานทั่วโลกจำนวนมาก เริ่มมีภาวะหมดไฟในการทำงานและลาออกจากงานมากขึ้น ซึ่งการสำรวจของวิทยาลัยการจัดการมหาวิทยาลัยมหิดล ที่สำรวจแรงงานในกรุงเทพฯ ล่าสุด พบว่า แรงงานในทุกกลุ่มอาชีพมีภาวะหมดไฟในระดับสูง ได้แก่ พนักงานรัฐวิสาหกิจมีภาวะหมดไฟ 77% รองลงมาเป็น บริษัทเอกชน 73% ข้าราชการ 58% และธุรกิจส่วนตัว 48% ดังนั้น นายจ้างองค์กรต่าง ๆ ต้องการกระตุ้นให้มีโครงการที่สร้างสรรค์และออกแบบให้คนในองค์กรมีสุขภาพจิตที่เข้มแข็ง มีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน รวมทั้งปรับสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการของแรงงาน

สำหรับสถานการณ์หนี้สินครัวเรือนในไตรมาสแรก ที่ผ่านมา ขยายตัวชะลอลง ความสามารถในการชำระหนี้ทรงตัว โดยมีสัดส่วนสินเชื่ออุปโภคบริโภคที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 2.78% เป็นผลจากมาตรการช่วยเหลือทางการเงินและการปรับโครงสร้างหนี้ที่ช่วยชะลอไม่ให้เกิดหนี้เสียเพิ่ม ส่วนประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญในระยะถัดไปคือ ผลกระทบของภาระค่าครองชีพที่อาจกดดันให้ครัวเรือนมีความต้องการสินเชื่อมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ครัวเรือนที่รายได้ยังไม่ฟื้นตัวและได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงมีการก่อหนี้มากขึ้น