สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ว่า นายอัซฮาร์ อาซิซาน อารุน ประธานสภาผู้แทนราษฎรของมาเลเซีย แถลงว่า นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ผ่านสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ จนกว่ากระบวนการพิจารณาทั้งหมดจะเสร็จสิ้น นาจิบยังคงมีสถานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และจะพ้นจากตำแหน่ง เฉพาะในกรณีที่ “ฎีกาได้รับการปฏิเสธเท่านั้น” ขณะที่คณะองคมนตรีจะเป็นผู้พิจารณารายละเอียดทั้งหมดในฎีกา และอาจมีการขอคำปรึกษา หรือความเห็นจากนายกรัฐมนตรีอิสมาอิล ซาบรี ยาค็อบ ผู้นำรัฐบาลคนปัจจุบัน


สำหรับการยื่นฎีกาของนาจิบ เกิดขึ้นภายในระยะเวลา 14 วัน ตามกฎหมาย หลังศาลฎีกามีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา ให้ยืนบทลงโทษจำคุกอดีตผู้นำมาเลเซีย วัย 69 ปี เป็นเวลา 12 ปี โดยไม่รอลงอาญา และชำระค่าเสียหายคืนแก่แผ่นดิน 210 ล้านริงกิต ( ราว 1,702.16 ล้านบาท ) แต่หลังจากนั้นไม่นาน มีรายงานว่า อดีตผู้นำมาเลเซีย “ล้มป่วย” และต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

ศาลสูงสุดของมาเลเซียมีมติเป็นเอกฉันท์ ว่านาจิบมีความผิดจริงตามคำฟ้องทั้ง 7 กระทง ซึ่งรวมถึง การละเมิดอำนาจ ฟอกเงิน และใช้อำนาจในทางมิชอบ ยักยอกเงิน 42 ล้านริงกิต ( ราว 343.77 ล้านบาท ) จากเอสอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนย่อยของกองทุนพัฒนาแห่งชาติ ( วันเอ็มดีบี ) เข้าสู่บัญชีส่วนตัว


อนึ่ง นาจิบ วัย 69 ปี เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ของมาเลเซีย ซึ่งต้องเข้าสู่เรือนจำจากความผิดฐานคอร์รัปชั่น โดยคดีของเอสอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นคดีแรกจาก “อีกหลายสิบคดี” ของวันเอ็มดีบี ที่นาจิบเป็นผู้ก่อตั้ง สมัยยังดำรงตำแหน่งผู้นำรัฐบาล ซึ่งอัยการสูงสุดของมาเลเซีย กล่าวหาอดีตผู้นำประเทศยักยอกเงินออกจากกองทุนนี้เสียเอง มากกว่า 18,000 ล้านริงกิต ( ราว 147,329.30 ล้านบาท ).

เครดิตภาพ : REUTERS