เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.จตุพร หรือ นิว แซอึ้ง เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูงตาม ป.อาญา ม.112 จากการเข้าร่วมการชุมนุมที่ถนนสีลม เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2563 ซึ่งกลุ่มราษฎรจัดกิจกรรมแฟชั่นโชว์ศิลปะราษฎร์ รูปแบบกิจกรรมเป็นการแสดงศิลปะและแฟชั่น ไม่มีการปราศรัย นิว จตุพร ไปเข้าร่วมกิจกรรมโดยสวมชุดไทยสีชมพู และเดินบนพรมสีแดง ระหว่างการเดินมีผู้ร่วมชุมนุมบางคนตะโกนคำว่า “ทรงพระเจริญๆ” ทำให้ถูกดำเนินคดี ป.มาตรา 112 และข้อหา พ.ร.บ.ชุมนุมฯ

โดยในวันนี้ น.ส.จตุพร สวมชุดไทยเดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมด้วยทนายความ โดยมีพรรคพวกเพื่อนฝูงเดินทางมามอบดอกไม้ให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง

ก่อนฟังคำพิพากษา น.ส.จตุพร กล่าวว่า คดีนี้ที่ผ่านมาตนยืนยันให้การปฏิเสธ ขอให้การในชั้นศาล ซึ่งในการสืบพยานตนเองเบิกความด้วยตัวเอง 1 ปากพร้อมนำส่งเอกสารพยานหลักฐานให้ศาลพิจารณาประกอบด้วย โดยตนเองยืนว่าในการเข้าร่วมการชุมนุม ตนเองใส่ชุดไทยตามปกติ ไม่ได้แต่งเลียนแบบใคร ไม่ได้ให้ใครมากราบมาไหว้ หรือตะโกนทรงพระเจริญ คดีนี้เกิดจากการตีความของบุคคลอื่นและพยานโจทก์ที่มาเบิกความคิดไปเอง ซึ่งใครจะมองว่าตนแต่งเป็นใครก็ได้ แต่ตนเองยืนยันว่าแค่อยากใส่ชุดไทยเท่านั้น ส่วนตัวมั่นใจตัวเอง

ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษา นายวีรนันท์ ฮวดศี ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิและมนุษยชน กล่าวว่า ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วพิพากษาลงโทษจำคุก น.ส.จตุพร จำเลย เป็นเวลา 3 ปี ปรับ 1,500 บาท ฐานฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุม ทางนำสืบให้การเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงลงโทษจำคุกจำเลย 2 ปี ไม่รอลงอาญา ปรับ 1,000 บาท โดยขณะนี้กำลังยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ 200,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี.

ต่อมา นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยต่อว่า ภายหลังทนายความยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ 300,000 บาท ขอประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ โดยศาลอาญากรุงเทพใต้เห็นควรส่งขึ้นศาลอุทธรณ์พิจารณาสั่งคำร้อง ในวันนี้เมื่อหมดเวลาราชการจำเลยจะต้องถูกนำไปควบคุมตัวในเรือนจำจนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งลงมา