เมื่อวันที่ 11 ส.ค. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. เปิดเผยถึงปัญหาการชุมนุมด้วยวิธีคาร์ม็อบว่า การที่ผู้ชุมนุมเปลี่ยนมาชุมนุมในรูปแบบของคาร์ม็อบนั้นส่งผลกับการจราจรอย่างมาก ใน 3 ประการ 1.การเคลื่อนย้ายของผู้ชุมนุมไม่มีเป้าหมายที่แน่นอน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่สามารถที่จะกำหนดทิศทางการจราจรได้ 2.สำหรับการปิดพื้นที่การชุมนุมเมือก่อนจะปิดพื้นที่เพียงหนึ่งแยกก่อนมีการชุมนุม แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นการชุมนุมในลักษณะคาร์ม็อบทำให้ต้องใช้พื้นที่เพิ่มขึ้น จึงต้องทำการปิด 2-3 แยกก่อนถึงเวลาชุมนุม และ 3.ภายหลังการชุมนุมมีการทำลายตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถที่จะควบคุมสัญญาณได้ จึงอาจจะส่งผลกับผู้ที่ใช้รถใช้ถนน

ส่วนการชุมนุมในวันนี้ (11 ส.ค.) มีการนัดหมายที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับถนนโดยรอบพื้นที่ชุมนุม อาทิ ถนนพญาไท จากแยกพญาไท-อนุสาวรีย์ฯ ถนนพหลโยธิน จากอนุสาวรีย์ฯ-แยกสะพานควาย ใต้ทางด่วนดินแดง-อนุสาวรีย์ฯ ถนนราชวิถี จากอนุสาวรีย์ชัยฯ-ตึกชัยฯ ทั้งนี้ถ้ามีผู้ชุมนุมมากอาจจะส่งผลให้ 2 ช่องทางด่วนอนุสาวรีย์ชัยฯ อาจจะใช้การไม่ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงแนะนำทางเลี่ยงให้กับผู้ที่ต้องใช้รถใช้ถนนให้ไปใช้เส้นทางรอบอนุสาวรีย์ทางทิศเหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก ห่างจากอนุสาวรีย์ชัย 2-3 แยก นอกจากนี้การเคลื่อนขบวนของผู้ชุมนุมนั้นไม่แน่นนอน ผู้ใช้ถนนอาจจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องที่เพจเฟซบุ๊ก 1197 หรือโทรฯ สายด่วน 1197 ตลอด 24 ชม.