สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ว่า เทศบาลนครนิวยอร์กคาดการณ์ว่าจะใช้เงินประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 37,500 ล้านบาท) เพื่อจัดการการหลั่งไหลเข้าเมืองของผู้อพยพ โดยอดัมส์ กล่าวว่า มีผู้อพยพเข้ามายังนครนิวยอร์กมากกว่า 17,000 คน นับตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบอย่างมากต่อระบบให้ที่พักพิงแก่คนไร้บ้าน

ด้าน นายเกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเทกซัส ส่งผู้อพยพมากกว่า 3,000 คน ไปยังรัฐนิวยอร์กแล้ว ซึ่งอดัมส์วิพากษ์วิจารณ์แอบบอตต์ถึงความล้มเหลวของเขาในการแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ของเมืองเมื่อมีการส่งผู้อพยพ และเรียกมันว่าเป็น “วิกฤติที่มนุษย์สร้างขึ้น”

นอกจากนี้ พรรคเดโมแครตยังเรียกความเคลื่อนไหวดังกล่าวว่า เป็น “เรื่องไร้สาระทางการเมือง” และกล่าวหาผู้ว่าการรัฐเกี่ยวกับการใช้ประชาชนเป็นหมากในเกมการเมือง

ทั้งนี้ ผู้อพยพจำนวนมากที่ถูกส่งเข้ามายังรัฐนิวยอร์กเป็นชาวเวเนซุเอลา ซึ่งสหรัฐไม่สามารถผลักดันไปยังเม็กซิโกเหมือนกับผู้อพยพสัญชาติอื่น ๆ ได้ เนื่องจากนโยบายที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19

แม้ว่าเมืองเอลปาโซ ในรัฐเทกซัส ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของพรรคเดโมแครต จะส่งผู้อพยพราว 7,000 คนไปยังรัฐนิวยอร์กตั้งแต่เดือน ส.ค. ที่ผ่านมา โดยบรรดาผู้นำเมือง กล่าวว่า พวกเขากำลังประสานงานกับเจ้าหน้าที่รัฐนิวยอร์ก แต่จำนวนผู้อพยพที่เพิ่มขึ้นได้สร้างสถิติจำนวนคนในศูนย์พักพิงทั่วรัฐนิวยอร์กแล้ว

“แม้ว่าความเห็นใจของพวกเราจะไร้ขีดจำกัด แต่ทรัพยากรของเรามีขีดจำกัด” อดัมส์ กล่าวว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินจะทำให้หลายหน่วยงานในเมืองประสานงานการตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นมอบความช่วยเหลือด้วย.

เครดิตภาพ : REUTERS