จากกรณี กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าริมถนนดวงพิทักษ์ ย่านคลองเตย โดนกลุ่มคนร้ายตั้งตนเป็นมาเฟียเรียกเก็บค่าคุ้มครองเดือนละ 1 พันบาทต่อเดือน จากพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยในหลายพื้นที่ของ กทม. ต่อมาได้มีการเรียกเก็บเพิ่มเป็น 3 พันบาทต่อเดือน ทำให้หลายคนไม่ไหวไม่ยอมจ่ายให้ จึงโดนอีกฝ่ายทำร้ายร่างกาย ก่อนจะชักปืนยิงใส่ แต่โชคยังดีที่ปืนยิงไม่ออก ทำให้รอดตายมาได้หวุดหวิด ทั้งนี้ทางพ่อค้าหมูปิ้งและแม่ค้าน้ำมะพร้าว ได้เป็นผู้เสียหายร้องทุกข์ไปยังเพจ สายไหมต้องรอด ขอให้ช่วยติดตามคดีนี้ หลังจากแจ้งความไปแล้วกลัวคดีจะเงียบหายไป

เกี่ยวกับเรื่องนี้่ เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่ สน.ลุมพินี พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี แถลงผลการจับกุมคนร้าย 4 ราย ที่ก่อเหตุทำร้ายพ่อค้าหมูปิ้งไว้ได้แล้ว ทราบชื่อนายวิโรจน์ ด้วงทิพย์ หรือ “ต๊ะ” อายุ 36 ปี, นายณัฐวุฒิ ด้วงทิพย์ หรือ “กุ้ง” อายุ 32 ปี, นายชูเดซ สุริยมนต์ หรือ “แบล็ก” อายุ 29 ปี และ นายสุรัตน์ชัย หรุ่นรักญาติ หรือ “ทู” อายุ 30 ปี พร้อมอาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ บาเร็ตต้ รุ่นนาโน ขนาด 9 มม. สีดำ พร้อมเสื้อผ้าที่คนร้ายใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ

พล.ต.ต.จิรสันต์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่พบผู้ต้องหามีพฤติกรรมเป็นมาเฟียใหญ่คุมพื้นที่ดังกล่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม จะต้องให้ตำรวจพื้นที่ไปป้องปรามไม่ให้มีการรวมกลุ่มกันตั้งเป็นแก๊งมาเฟียสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ซึ่งหากพบว่ามีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพลก็จะดำเนินการตามกฏหมาย จากการตรวจสอบประวัติของกลุ่มผู้ต้องหา พบว่า มีประวัติเคยถูกดำเนินคดี 3 คน เกี่ยวกับคดีจำหน่านสินค้าปลอมและ ครอบครองพืชกระท่อม ส่วนที่ผู้เสียหายอ้างว่า มีผู้ก่อเหตุ 6-7 คน ร่วมก่อเหตุและปรากฎในคลิปเหตุการณ์นั้น อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจับกุมตัว

ขณะเดียวกันจะให้ตำรวจ สน.ลุมพินี ส่งกำลังตำรวจไปดูแลความปลอดภัยผู้เสียหายขณะขายของ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการข่มขู่ ก่อกวน หรือก่อเหตุซ้ำอีก ผู้เสียหายจะได้รู้สึกปลอดภัย เบื้องต้นได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 4 รายคือ “ร่วมกันพยายามฆ่า, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์,และช่องโจร” สำหรับ นายวิโรจน์ และ นายณัฐวุฒิ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม คือ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสารธาณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร เนื่องจากเป็นผู้ใช้อาวุธปืนในวันเกิดเหตุ โดยจะคุมตัวทั้งหมดไปฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ในวันที่ 10 ต.ค.นี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจาก เกรงว่าอาจจะไปข่มขู่ หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน.