สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวถึงสถานการณ์สู้รบกับรัสเซีย ซึ่งยืดเยื้อมานานกว่าครึ่งปีแล้ว ว่าการส่งเสริมศักยภาพและประสิทธิภาพให้กับระบบป้องกันทางอากาศ “เป็นเรื่องจำเป็นที่สุดในเวลานี้” สำหรับกองทัพยูเครน และแสดงความหวังจะได้รับความสนับสนุนเพิ่มเติมในเรื่องดังกล่าวจากสหรัฐ
WARNING: GRAPHIC CONTENT – Massive explosions shook the Ukrainian capital of Kyiv and other cities after Russian President Vladimir Putin accused Ukraine of a terrorist attack on a bridge linking Russia and Crimea https://t.co/hmowdfs1am pic.twitter.com/hxfkA3vKve
— Reuters (@Reuters) October 10, 2022
ขณะเดียวกัน เซเลนสกีประกาศว่า ยูเครน “พร้อมดำเนินการทุกวิถีทาง” เพื่อยกระดับขีดความสามารถของกองทัพ และประณามการที่กองทัพรัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางอากาศแบบปูพรม ถล่มเมืองใหญ่ 8 แห่งทั่วยูเครน รวมถึงกรุงเคียฟ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 12 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวอย่างตรงไปตรงมา ว่ากองทัพปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายในยูเครนจากระยะไกล “ครั้งใหญ่” เพื่อตอบโต้ที่รัฐบาลเคียฟอยู่เบื้องหลัง เหตุระเบิดรถบรรทุกบนสะพานเคิร์ช ซึ่งเชื่อมระหว่างคาบสมุทรไครเมียกับแผ่นดินใหญ่รัสเซีย เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และพื้นที่บางส่วนของสะพานพังทลาย

Putin says Russia hit military, energy, and communications targets in response to the Crimea bridge attack.
— max seddon (@maxseddon) October 10, 2022
"If attempts to carry out terrorist attacks continue, Russia's response will be severe and at the level of the threats facing it. Nobody should be in any doubt." pic.twitter.com/fsingDkhd8
นอกจากนี้ ปูตินยืนยันว่า “การโจมตีตอบโต้ของรัสเซียจะหนักข้อขึ้น” หากยูเครนยังไม่ยุติความพยายามสร้างความเสียหาย ให้กับระบบโครงสร้างพื้นฐานของรัสเซีย เนื่องจาก “เป็นไปไม่ได้เลย” ที่รัฐบาลมอสโกจะวางเฉยกับเรื่องนี้.
เครดิตภาพ : REUTERS