ชานติ เดอ คอร์เต หญิงสาวชาวเบลเยียม วัย 23 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ก่อการร้ายด้วยระเบิดที่สนามบินกรุงบรัสเซลส์ เมื่อปี 2559 ร้องขอสิทธิเพื่อรับการการุณยฆาต หลังจากที่ต้องทนทรมานกับสภาพจิตใจที่บอบช้ำเนื่องจากเหตุระเบิดมาเป็นเวลานาน

มาริแอลล์ ผู้เป็นแม่ของ เดอ คอร์เต ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นว่า ลูกสาวของเธอต้องทนทุกข์ใจอย่างหนัก นับตั้งแต่เกิดเหตุก่อการร้ายด้วยระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่ม ISIS ที่สนามบินนานาชาติซาเวนเทม ประจำกรุงบรัสเซลส์ เธอบอกว่า เดอ คอร์เต ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในที่ปลอดภัยอีกเลย นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

เดอ คอร์เต อายุเพียง 17 ปี ในขณะเกิดเหตุสะเทือนขวัญชาวเบลเยียมและชาวโลก ในวันที่ 22 มี.ค. 2559 ตอนนั้นเธอเป็นนักศึกษาและกำลังจะออกเดินทางไปอิตาลีกับเพื่อนร่วมชั้น ตอนที่เธอเดินผ่านส่วนรับรองผู้โดยสารขาออกนั้นเอง ผู้ก่อการร้ายก็กดส่งสัญญาณให้ระเบิดทำงาน แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิต 33 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 340 คน 

แม้ว่า เดอ คอร์เต จะรอดชีวิตและไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เธอได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจอย่างหนัก เหตุการณ์วันระเบิดสนามบินได้ตามหลอกหลอนจิตใจเธอตลอดเวลา และต้องรับการรักษาจากจิตแพทย์ แม่ของเธอเล่าว่า เดอ คอร์เต ไม่ยอมออกไปในที่ที่มีคน เพราะเธอมักรู้สึกหวาดกลัว มีอาการตื่นตระหนกโดยไม่มีเหตุผลและไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

เบลเยียม เป็น 1 ใน 7 ประเทศที่อนุญาตให้ทำการุณยฆาตได้ตามกฎหมาย และเป็นประเทศที่ 2 ที่อนุญาตตั้งแต่ปี 2545 โดยมีเนเธอร์แลนด์ เป็นประเทศแรก ประเทศอื่น ๆ ที่อนุญาตให้ทำการุณยฆาตได้ตามกฎหมาย ได้แก่ ลักเซมเบิร์ก, โคลอมเบีย, แคนาดา, สเปน และนิวซีแลนด์ โดยเบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ เป็นสองประเทศที่ยินยอมให้ผู้ป่วยที่ทนทุกข์ทรมานจากอาการเจ็บป่วยทางจิต เลือกร้องขอการุณยฆาตได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

การขอรับการุณยฆาตของ เดอ คอร์เต ได้รับความเห็นชอบจากจิตแพทย์สองท่านในช่วงต้นปีนี้ โดยให้เหตุผลว่า ผู้ป่วย “ไม่สามารถทนรับความทุกข์ทรมานทางจิตใจต่อไปได้” หลังจากที่เธอต้องทนทุกข์มาเป็นเวลาหลายปีจากอาการวิตกกังวลและโรคซึมเศร้า เธอยังเคยพยายามฆ่าตัวตายในปี 2561 และปี 2563 รวมทั้งมักจะโพสต์ข้อความลงในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับความรู้สึกทุกข์ใจเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตของเธอ

ในโพสต์หนึ่งของ เดอ คอร์เต เธอเขียนว่า เธอต้องรับยาต้านอาการซึมเศร้าถึง 11 ชนิดต่อวัน และอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่ได้กินยาเหล่านี้ แต่เมื่อเธอกินยาเข้าไปแล้ว เธอก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผีที่ไม่สามารถสัมผัสความรู้สึกใด ๆ ได้อีก เธอยังแสดงความเห็นว่า บางที ยาอาจไม่ใช่ตัวเลือกเพียงอย่างเดียวที่มีอยู่

กระนั้นก็มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยต่อการตัดสินใจของเธอ ทีมอัยการรัฐเริ่มเปิดการสืบสวนกรณีของ เดอ คอร์เต หลังจากที่นักประสาทวิทยาจากคลินิก UZC Brugman ในกรุงบรัสเซลส์ แสดงความกังวลว่า เดอ คอร์เต อาจด่วนตัดสินใจโดยไม่ได้ไตร่ตรองให้รอบคอบ

อย่างไรก็ตาม ความกังวลดังกล่าวไม่มีผลต่อการตัดสินใจของ เดอ คอร์เต เนื่องจากเธอรับการการุณยฆาตไปเรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านั้น เธอได้โพสต์ข้อความสุดท้ายลงบนโซเชียลมีเดียของเธอ มีใจความว่า เธอกำลังหัวเราะและร้องไห้ในเวลาเดียวกันจนถึงวันสุดท้าย เธอกำลังจะได้จากไปด้วยความสงบสุขและคิดถึงผู้เป็นที่รักทุกคน. 

แหล่งข่าว : foxnews.com, thepostmillennial.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES