สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไทเป สาธารณรัฐจีน เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ว่า ทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันออกแถลงการณ์ว่า การรักษาเสถียรภาพและสันติภาพของช่องแคบไต้หวัน เป็นภารกิจที่ต้อง “ปฏิบัติร่วมกันทั้งสองฝ่าย” และว่า “การเผชิญหน้ากันบนสมรภูมิไม่ใช่ทางออก” พร้อมทั้งยืนกรานว่า ไต้หวันไม่มีทางยอมรับหลักการบริหารแบบ “หนึ่งประเทศ สองระบบ”
ท่าทีดังกล่าวของรัฐบาลไทเป ไม่เหนือความคาดหมาย และเกิดขึ้นหลังประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กล่าวในช่วงหนึ่งของการแถลงเปิดการประชุม สมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ ครั้งที่ 20 ณ มหาศาลาประชาชน ในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าการแก้ไขสถานการณ์เกี่ยวกับไต้หวัน “เป็นกิจการภายในของจีน” และ “ชาวจีนเท่านั้นที่เป็นผู้ตัดสินใจ”

แม้สียืนยันว่า รัฐบาลปักกิ่งยึดมั่นกับแนวทาง “การรวมชาติตามแนวทางสันติวิธี” อย่างไรก็ตาม “หากมีความจำเป็นในระดับสูงสุด” รัฐบาลปักกิ่งไม่ลังเลที่จะใช้มาตรการทางทหาร “ซึ่งเป็นความชอบธรรม” เพื่อป้องกัน “การแทรกแซงจากกองกำลังภายนอก” และยับยั้ง “ความพยายามแบ่งแยกดินแดน” ที่เป็นการเคลื่อนไหวของ “กลุ่มคนส่วนน้อย”
It is up to the people to resolve disputes with Taiwan, and China will not renounce the right to use force, President Xi Jinping said in a speech at the opening of the Communist Party congress in Beijing https://t.co/EV6xcToZnH pic.twitter.com/S6BYCWqquq
— Reuters (@Reuters) October 16, 2022
ขณะที่ประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน แถลงสุนทรพจน์เนื่องในวันสถาปนาสาธารณรัฐจีน ตรงกับวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่า รัฐบาลไทเป “เสียใจเป็นอย่างยิ่ง” ต่อการที่รัฐบาลปักกิ่งยกระดับการข่มขู่และคุกคาม สันติภาพตลอดจนเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวันและภูมิภาค
President Tsai @iingwen pledged to boost Taiwan’s defenses in a speech to mark the country’s National Day. pic.twitter.com/wJawnvrdhG
— TaiwanPlus (@taiwanplusnews) October 10, 2022
ไช่เน้นย้ำว่า ความขัดแย้งด้านอาวุธไม่เป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตาม การเจรจาต้องเกิดขึ้นบนพื้นฐานสำคัญที่ว่า รัฐบาลปักกิ่งให้เกียรติและมีความเคารพต่ออธิปไตย เสรีภาพ และความเป็นประชาธิปไตยของไต้หวันเท่านั้น มิเช่นนั้น “ไม่มีการประนีประนอมอย่างเด็ดขาด” และประกาศว่า ไต้หวันพร้อมยืนหยัดเพื่อพิทักษ์อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของตัวเอง.
เครดิตภาพ : REUTERS