สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ว่า กระทรวงกลาโหมของรัสเซียออกแถลงการณ์ ยืนยันการใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ “ด้วยอาวุธที่มีความแม่นยำในระดับสูงต่อเป้าหมายระยะไกล” ซึ่งการโจมตีทั้งหมด “สามารถทำลายเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ” นั่นคือ “โครงสร้างพื้นฐาน” ในยูเครน


ขณะเดียวกัน กองทัพรัสเซียยังสามารถสกัดกั้นความพยายามของกองทัพยูเครน ในการรุกคืบพื้นที่ของภูมิภาคเคียร์ซอน ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนด้วย

ประชาชนทั่วไปและสื่อมวลชน หลบใต้สะพานแห่งหนึ่ง ระหว่างมีการเปิดไซเรนเตือนภัย ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน


ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดียูเครน รายงานการพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย หลังการโจมตีในกรุงเคียฟ ส่วนเมืองอีกหลายแห่งซึ่งตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีด้วย ยังไม่มีการยืนยันผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บอย่างเป็นทางการ ด้านสื่อท้องถิ่นหลายแห่งรายงานว่า บนขีปนาวุธบางลูกมีการเขียนเป็นภาษารัสเซียว่า “เพื่อเบลโกรอด” สื่อถึงเมืองเบลโกรอด ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของรัสเซีย และมีพรมแดนติดกับยูเครน โดยรัฐบาลมอสโกกล่าวหากองทันยูเครนโจมตีข้ามพรมแดนมายังเมืองเบลโกรอดแล้วหลายครั้ง

โดรนลำหนึ่งของรัสเซีย บินเหนือกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน


นอกจากนี้ รัฐบาลเคียฟกล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้นอกจากมีการใช้ขีปนาวุธแล้ว ยังมีการใช้ “โดรนกามิกาเซ่” ด้วย และนับเป็นครั้งที่สองภายในระยะเวลาเพียงสัปดาห์เดียว ที่เมืองหลวงของยูเครนตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางทหารโดยรัสเซีย โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองทัพรัสเซียโจมตีกรุงเคียฟ และเมืองใหญ่อีก 7 แห่งในยูเครน ตอบโต้เหตุระเบิดรถบรรทุก บนสะพานเชื่อมระหว่างคาบสมุทรไครเมียกับแผ่นดินใหญ่ยูเครน


อนึ่ง ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว ยูเครนประกาศการลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน เนื่องจาก “มีหลักฐาน” ว่า รัฐบาลเตหะรานมอบความสนับสนุน โดรนกามิกาเซ่ “ชาเฮด-136” และโดรน “โมฮาเจอร์-6” ให้แก่รัสเซีย ด้านอิหร่านยืนกรานปฏิเสธมาตลอด อย่างไรก็ตาม รัสเซียยังไม่เคยให้ความเห็นอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้.

เครดิตภาพ : REUTERS