มูลค่าหุ้นของ ‘เน็ตฟลิกซ์’ สูงขึ้นถึง 14% หลังปิดตลาดครั้งล่าสุด โดยเป็นผลจากการแถลงผลประกอบการและการคาดการณ์ในอนาคตของบริษัทว่า จะสามารถเพิ่มจำนวนสมาชิกได้อีก 4.5 ล้านรายภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยก่อนหน้านี้ มูลค่าหุ้นของบริษัทเคยตกลงถึง 60%  

รีด เฮสติงส์ หนึ่งในซีอีโอของ เน็ตฟลิกซ์ เสริมว่าบริษัทต้องรีบฉวยโอกาสในจังหวะที่กำลังเป็นประโยชน์นี้ โดยการเน้นไปที่คอนเทนต์ของช่องและทำตลาดด้วยการเสนอแพ็กเกจสมาชิกแบบมีโฆษณาซึ่งจะมีราคาถูกลง

ตั้งแต่เดือน ก.ค. จนถึงเดือน ก.ย. ปีนี้ เน็ตฟลิกซ์ สามารถหาสมาชิกใหม่เพิ่มได้อีก 2.4 ล้านรายจากทั่วโลก ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าผู้เชี่ยวชาญของวอลล์สตรีทเคยคาดการณ์ไว้ถึง 2 เท่า คาดว่าจะเป็นผลจากซีรีส์ยอดนิยมอย่าง Stranger Things และ Dahmer – Monster: The Jeffrey Dahmer Story ซึ่งกลายเป็นซีรี่ส์ที่มีผู้รับชมมากที่สุดของเน็ตฟลิกซ์ในตอนนี้

หลังจากที่เผชิญหน้ากับยอดสมาชิกที่ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วง 6 เดือนแรกของปีจนเหลือเพียง 1.2 ล้านราย ขณะนี้ เน็ตฟลิกซ์ มีจำนวนสมาชิกในปัจจุบันอยู่ที่ 223.1 ล้านรายทั่วโลก 

สำหรับไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ เน็ตฟลิกซ์ คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 7,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 297,811 ล้านบาท) ซึ่งลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่ 3 ประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยอ้างเหตุผลเรื่องค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดแพ็กเกจสมาชิกแบบมีโฆษณาในราคาเดือนละประมาณ 7 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 267 บาท) ภายในเดือน พ.ย. ที่จะถึงนี้ เพื่อดึงดูดลูกค้าที่สนใจเรื่องค่าสมาชิกเป็นหลัก ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมาก และทำให้บริษัทมีช่องทางหารายได้เพิ่มขึ้นจากการโฆษณา นอกเหนือไปจากการเรียกเก็บค่าสมาชิก

เครดิตภาพ : REUTERS