สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ว่า สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นโอดีซี) กล่าวในแถลงการณ์ว่า โคลอมเบียมีพื้นที่ปลูกต้นโคคาเพิ่มขึ้นราว 43% จากเดิมที่ 143,000 เฮกตาร์เมื่อปี 2563 เป็น 204,000 เฮกตาร์ในปี 2564 ควบคู่ไปกับการผลิตโคเคนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขสูงสุด นับตั้งแต่ยูเอ็นโอดีซี เริ่มติดตามการผลิตโคเคนของโคลอมเบีย เมื่อ 21 ปีที่แล้ว
ขณะที่นายเนสตอร์ โอซูนา รมว.ยุติธรรมโคลอมเบีย กล่าวในการนำเสนอรายงานว่า ตัวเลขดังกล่าวเป็นหลักฐานชัดเจนที่แสดงถึง “ความล้มเหลวของสงครามยาเสพติด” และกล่าวเสริมว่าทางรัฐบาลกำลังดำเนินการ เกี่ยวกับนโยบายยาเสพติดฉบับใหม่อยู่ ซึ่งแม้ว่ามันจะไม่รวมถึงการทำให้โคเคนถูกกฎหมาย แต่โอซูนาหวังว่า การค้าโคเคนจะได้รับการควบคุมระดับโลก “ในวันหนึ่ง”
สำหรับส่วนหนึ่งของแนวทางใหม่ ประธานาธิบดีกุสตาโว เปโตร ผู้นำโคลอมเบีย เสนอให้มีการนิรโทษกรรมสำหรับผู้ค้ายาเสพติดที่เต็มใจมอบตัว และละทิ้งการค้ายาเสพติด ตลอดจนการจัดซื้อที่ดินทำกิน และแจกจ่ายให้กับเกษตรกรรายย่อย เพื่อให้พวกเขาสามารถเลี้ยงชีพตัวเองและครอบครัว จากพืชผลถูกกฎหมาย และหลุดพ้นจากความรุนแรงของแก๊งยาเสพติดได้
อย่างไรก็ตาม ยูเอ็นโอดีซี ระบุว่า การเพาะปลูกใบโคคา “ยังคงคุกคามศักยภาพทางวัฒนธรรม และความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศ” ซึ่งก่อให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าอีกด้วย.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
