เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 25 ต.ค. ที่อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการ กทม.ดินแดง เขตดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยถึงกรณีที่ฝ่ายบริหารจะเสนอเรื่องแนวทางการเก็บค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ต่อสภากรุงเทพมหานคร ในวันพรุ่งนี้ (26 ต.ค.) ว่า เรื่องที่จะเสนอต่อสภากรุงเทพมหานครนั้น จะมีอยู่ 2 เรื่อง คือ เรื่องแรกกรณีค่าโดยสารของส่วนต่อขยายส่วนที่ 2 ช่วงหมอชิต-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ โดยกรุงเทพมหานคร เสนอให้จัดเก็บค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย

ซึ่งหากสภากรุงเทพมหานครเห็นชอบจะมีการสั่งการต่อไปยังบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ให้มีการจัดเก็บค่าโดยสาร ซึ่งทาง KT จะแจ้งแก่เอกชนผู้ดำเนินการต่อไป คือใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน นับจากสภากรุงเทพมหานครเห็นชอบ

เรื่องที่ 2 กรณีตอบกลับหนังสือขอความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสาสีเขียว ของกระทรวงมหาดไทยนั้น เมื่อสภากรุงเทพมหานครให้ความเห็นแล้ว จะมีการตอบกลับหนังสือต่อไป โดยในส่วนของความเห็นของผู้บริหารกรุงเทพมหานครนั้น มี 2 ความเห็น คือ

1.เห็นว่าไม่ควรมีการต่อสัมปทานโดยคำสั่งคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ที่ 3/2562 แต่ควรต่อสัมปทานโดยใช้วิธีการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 และ 2.ขออุดหนุนค่าใช้จ่ายโครงสร้างงานโยธาของส่วนต่อขยายส่วนที่ 2 ช่วงหมอชิต-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เนื่องจากรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ ก็มีการขออุดหนุนค่าใช้จ่ายโครงสร้างโยธาเช่นกัน

ด้าน นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเสริมว่า ในการขออุดหนุนค่าโครงสร้างงานโยธานั้นเป็นกรณีปกติของการก่อสร้างรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ซึ่งปัจจุบันค่าโครงสร้างงานโยธา รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายส่วนที่ 2 กรุงเทพมหานครรับโอนหนี้จากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยประมาณ 5.8-5.9 หมื่นล้านบาทรวมดอกเบี้ย ซึ่งหากรัฐบาลไม่เห็นด้วยในการขออุดหนุน กรุงเทพมหานครมีแนวทางคือ การเจรจาเพื่อที่จะโอนรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งสาย คือ 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนสัมปทานช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน, ส่วนต่อขายที่ 1 ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และช่วงสะพานตากสินบางหว้า และส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงหมอชิต-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ให้กับรัฐบาล โดยมีเงื่อนไขบางประการ เช่น ของบประมาณชดเชย กำหนดเพดานค่าโดยสาร ฯลฯ