สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ว่ากลุ่มตาลีบันออกแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ ว่าสงครามอันยาวนาน 20 ปีในอัฟกานิสถาน "ได้ยุติแล้ว" และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กองกำลังต่างชาติ "จะไม่สร้างประสบการณ์อันเลวร้ายซ้ำให้กับตัวเองอีก" กลุ่มตาลีบันไม่ประสงค์การถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลก และคาดหวัง "การถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ" จะเกิดขึ้นภายในเร็ววันนี้ โดยโครงสร้างการบริหาร "ชุดใหม่" จะเป็นรูปเป็นร่างภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
เกี่ยวกับกฎหมายชารีอะห์ที่หลายฝ่ายหวั่นวิตกมาตลอด กลุ่มตาลีบันยังให้ความเห็นเพียงว่า จะมีการเคารพสิทธิและการแสดงออกของสตรี "แต่ต้องเป็นไปตามกรอบ" ส่วนนโยบายต่างประเทศนั้น กลุ่มตาลีบันมีจุดยืนชัดเจนในการไม่แทรกแซงฝ่ายใด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับเกียรติในระดับเดียวกัน
ขณะที่นายโมฮัมหมัด นาอีม โฆษกฝ่ายการเมืองของกลุ่มตาลีบัน ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์อัลจาซีราของกาตาร์ ซึ่งเป็นสื่อแรกของโลกด้วย ที่ได้รับคลิปจากกลุ่มตาลีบัน เป็นการเดินเข้าสู่ทำเนียบประธานาธิบดี ในกรุงคาบูล เกี่ยวกับการเดินทางออกนอกประเทศของประธานาธิบดีอัชราฟ กานี "เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย" และเชื่อว่าบุคคลใกล้ชิดกับผู้นำอัฟกานิสถาน "ไม่คาดคิด" เช่นกัน ทั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจน ว่ากานีเดินทางไปที่ใด รายงานหลายกระแสระบุไปที่ ทาจิกิสถานหรืออุซเบกิสถาน
กลุ่มควันพวยพุ่งจากการเผาทำลายเอกสารและข้าวของ ภายในสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงคาบูล
ทั้งนี้ กลุ่มตาลีบันยกพลเข้าสู่กรุงคาบูล เมื่อวันอาทิตย์ หลังตลอด 10 วันก่อนหน้านั้น สามารถยึดครองเมืองเอกอย่างน้อย 26 จาก 34 จังหวัด ด้านสหรัฐเสริมกำลังทหาร "ชั่วคราว" เพิ่มเป็นประมาณ 6,000 นายในอัฟกานิสถาน เพื่อการเร่งอพยพเจ้าหน้าที่ทางการทูต และพลเมืองสหรัฐที่ตกค้าง 
อนึ่ง รายงานหลายกระแสระบุว่า นายรอส วิลสัน อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงคาบูล เดินทางออกจากอัฟกานิสถานแล้ว "พร้อมธงชาติสหรัฐ" เมื่อคืนวันอาทิตย์ เป็นสัญลักษณ์ของการปิดสำนักงานการทูต อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่และทหารอีกจำนวนหนึ่งยังคงอยู่ภายในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบพื้นที่เป็นครั้งสุดท้าย.

เครดิตภาพ : AP