จากเด็กลูกครึ่งที่เติบโตมาในเส้นทางที่ไม่สวยหรู สำหรับ อ้น สราวุธ แต่โชคชะตาก็นำพามาให้เขาก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยอายุ 20 ปี จากนั้นเขาก็พัฒนาฝีมือจนเป็นที่ยอมรับ จนขึ้นชั้นถึงขั้นระดับพระเอก และเป็นที่รู้จักโด่งดังในละครเรื่องฉลุย นับแต่นั้นมา ชีวิตของเขาโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมาแล้วนานกว่า 20 ปี งานในวงการบันเทิงล้วนแล้วแต่ผ่านมือเขามาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น พิธีกร นักแสดง ดีเจ นักร้อง นับว่าเป็นคนบันเทิงที่มีฝีมือเก่งรอบด้าน ล่าสุดเขามาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show และได้มาเปิดเรื่องราวในชีวิต พร้อมเผยความรักแบบทุกซอกทุกมุมในใจกับความรักแรก พบเกือบโดนข้อหาพรากผู้เยาว์ เพราะเธอดันอายุแค่ 14 ปี และเคลียร์ชัดกับคำถาม พี่อ้อยพี่ฉอด ทำไมถึงต้องบอกเลิกในวันวาเลนไทน์ ทั้งๆ ที่เธอดีทุกอย่าง และมรสุมคลื่นลูกใหญ่ในชีวิตของ อ้น สราวุธ ทำให้รักที่เกือบจะเป็นครอบครัว ต้องพังลงจนอยากจบชีวิต และสิ่งหนึ่งเลยที่ อ้น สราวุธ ไม่เคยเชื่อ คือ เรื่องความรักในครอบครัว ไม่เคยศรัทธาถึงขั้นรังเกียจ เพราะปมจากครอบครัวในอดีต

อ้น เผยว่า “เรื่องรักมันเป็นความรักที่เกิดขึ้นแบบ Love at first sight ผมเคยเจอแล้ว คือ เปิดแมกกาซีนแล้วพลิกมา แล้วเจอตาของผู้หญิงคนหนึ่ง นี่คือสิ่งที่เราตามหาแล้ว พอเลื่อนลงมาที่ชื่อของเขา เป็นรักแรกพบของผม เขาเป็นคนที่ผมรักมากที่สุด แต่เขาอายุ 14 ปีครับ ตอนนั้นผมอายุ 24 ปีครับ ส่วนความรักครั้งหนึ่ง ที่ผมไปบอกเลิกรักผู้หญิงคนหนึ่งในวันวาเลนไทน์ คือเขาเป็นผู้หญิงหน้าตาดี การศึกษาดี เงินเดือนดี อายุมากกว่าผม 3-4 ปี ผมอยากได้อะไร ผมชอบอะไร เขาทำให้ผมหมดทุกอย่าง ผมชอบผู้หญิงผมยาว เขาไปต่อผมครับ แต่ผมไม่เอา เพราะหัวใจคนบังคับกันได้ไหมครับ คนที่มาดีกับเรามากๆ เราบังคับใจเราให้รักเขาไม่ได้ เราก็เลยต้องบอกเลิกเขา แต่ความเลวของผมคือ ผมบอกเลิกเขาในวันวาเลนไทน์ เพราะผมรู้เลยว่า ผมไม่บอกเลิก เขาก็จะอยู่กับผม”

“มีรักครั้งหนึ่งที่มาถึงจุดที่ว่าตั้งชื่อลูกชาย ลูกสาว เรียบร้อยแล้วครับ มันเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่สุดในชีวิตของผมครับ มันทำให้คนรอบข้างเสียใจร้องไห้ ทำให้บ้านของครอบครัวเขาเดือดร้อน มันทำให้ผมดิ่งไปถึงจุดที่ผมจะฆ่าตัวตายจริงๆ ครับ และผมเองก็เป็นคนไม่มีความศรัทธา ไม่เข้าใจความสุขของครอบครัว รังเกียจ เกลียด เพราะผมถูกทิ้งให้อยู่ในเปล โดนตอมทั้งตัว คำถามคือทำไม ทำไมทำเราเกิดมาแล้วไม่เลี้ยง อันนั้นแม่ใช่ไหม พ่อใช่ไหม ผมยกมือไหว้ (อ้นทำท่ายกมือไหว้) ผมรู้ว่าผมรังเกียจ ผมต้องพูดว่ารังเกียจ จำได้แค่ภาพบางภาพว่า เวลาที่พ่อไม่เมา พ่อจะเรียกตาหนู แล้วเอามานั่งตัก แต่เวลาที่พ่อเมา ผมต้องวิ่งหัวซุกหัวซุนไปหาที่ซ่อน เพราะพ่อจะเรียกผมมาแล้วเตะ”