เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 12 พ.ย. ที่ ห้องประชุม ชั้น 4 สำนักงานเขตบางรัก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานการประชุมในกิจกรรม “ผู้ว่าฯ กทม. สัญจรเขตบางรัก” เพื่อรับฟังภาพรวมการบริหารจัดการ ปัญหา อุปสรรคในการปฏิบัติงานของสำนักงานเขต รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าฯ กทม. และรายงานผลการดำเนินงานตาม Application Traffy Fondue โดยมีนายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. ผู้บริหาร กทม. น.ส.อัญชนา บุญสุยา ผอ.เขตบางรัก ผู้บริหารเขต หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งของ กทม. และสถานีตำรวจนครบาลท้องที่ ประกอบด้วย สถานีตำรวจนครบาลบางรัก สถานีตำรวจนครบาลยานนาวา ร่วมประชุม ติดตามลงพื้นที่ให้ข้อมูลและรับฟังปัญหาเพื่อนำไปดำเนินการแก้ไขในส่วนภารกิจที่หน่วยงานรับผิดชอบ

นายชัชชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่า เขตบางรักเป็นเขตเศรษฐกิจ ส่วนปัญหาหลักๆ เร่งด่วน คือ การเปลี่ยนรูปแบบการเก็บภาษีโรงเรือน เพราะแต่ก่อนเก็บตามรายได้ เก็บได้ประมาก 950 ล้านบาท แต่ปัจจุบันพอเปลี่ยนมาเป็นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จึงเหลือประมาณ 730 ล้านบาท รายได้ของเขตจึงลดลง คงต้องเร่งรัดดูเรื่องรายได้เพิ่มเติมต่อไป

ส่วนอีกเรื่องสำคัญ นายชัชชาติ เผยว่า คือเรื่องหาบเร่แผงลอย เพราะเขตบางรักเป็นเขตที่มีคนทำงานเยอะ พอพักเที่ยง พนักงานจึงต้องหาอาหารรับประทาน ตามถนนต่างๆ จึงมีปัญหาเป็นบางจุด แต่เรื่องนี้เราก็ได้มีการดำเนินการ อย่างเรื่องทางเดินเท้าถนนสีลมใหม่ ตนได้มอบหมายนโยบายให้ ผอ.เขตบางรัก จำกัดเรื่องจำนวนหาบเร่แผงลอย โดยห้ามมีจำนวนเพิ่มขึ้น ห้ามกีดขวางทาง แต่เราก็จะแก้ปัญหาด้วยการหาพื้นที่ทดแทนให้ เช่น ถนนสีลม ศาลาแดงซอย 2 ที่อาจจะให้ผู้ค้าขยับไปด้านหลัง หรือพื้นที่เอกชนบางจุด โดยเราจะไปเจรจากับเอกชนให้ รวมทั้งอีกมิติหนึ่งคือ จะทำโครงการศูนย์อาหาร (ฮอว์กเกอร์ เซ็นเตอร์) บริเวณลุมพินีประตู 5 ซึ่งจะเป็นร้านต่างๆ อยู่นั้น โดยจะให้ผู้ค้าย้ายมาอยู่ตรงจุดนี้ รวมถึงจะดึงหาบเร่แผงลอยริมถนนขึ้นมาให้ทำงานมีความมั่นคงด้วย ดังนั้น การแก้ปัญหานี้ คงจะไม่ไปไล่อย่างเดียว เพราะมันมีผมกระทบเชิงสังคม แต่เน้นย้ำว่า ไม่ให้เพิ่มจำนวนขึ้น และไม่ใช่สวัสดิการสังคม ถึงแม้ว่าจะทำมานาน แต่ปัญหาคือเขาเบียดเบียนทางสาธารณะอยู่ 

นายชัชชาติ ยังเผยถึงกรณีชุมชนแออัดในสีลมที่อาจเกิดเพลิงไหม้ ว่า จะให้มีการฝึกซ้อมเรื่องของอัคคีภัย ทั้งหน่วยดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเนื่องจากหากเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น จะได้รู้ว่าตรงไหนคือที่ดับเพลิง ตรงไหนคือหัวแรงอย่างเหตุการณ์ เมื่อวานที่นราธิวาสซอย 6 ที่มีน้องผู้หญิงอายุ 12 ขวบ เสียชีวิต ก็เป็นเหตุสลด ต้องถือว่าเป็นความสับสน เพราะว่าคนในครอบครัวก็คิดว่าได้อพยพคนออกมาแล้ว ดังนั้น จะต้องมีการซักซ้อมเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินว่า ใครจะดูแลใคร แล้วเวลาเกิดเหตุจะไปรวมกันที่ตรงไหน เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ความสำคัญคือคนในชุมชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันเหตุ ซึ่งในอนาคต ก็อาจจะนำเด็กและเยาวชนไปร่วมอบรมกับสถานีดับเพลิงของเขตต่อไป

นายชัชชาติ ยังมอบนโยบายเรื่องอาหารกลางวันเด็ก ว่า อยากให้อาหารมีคุณภาพมากขึ้น เช่น อาจจะมีผักสด สลัดบาร์ผลไม้ เพิ่มขึ้น และอีกเรื่องที่น่าสนใจ คือ Food Bank หรือธนาคารอาหาร ซึ่งจะเป็นการจัดสรรอาหารที่คุณภาพยังดีอยู่ แต่ใกล้ถึงวันหมดอายุ นำมารวมไว้ให้คนนำไปบริโภคได้ ซึ่งทางเขตบางรักเริ่มทำแล้ว ตนมองว่าเป็นโครงการที่ดี ลดปัญหาอาหารเหลือทิ้ง (Food Waste) โดยต่อไป อาจจะให้ร้านอาหารมีสติกเกอร์ติดว่าเข้าร่วมโครงการ เพื่อมั่นใจได้ว่า ร้านนี้จะไม่เกิดอาหารเหลือทิ้ง ผลักดันเรื่องอาหารเหลือทิ้ง และลดปัญหาเรื่องขยะได้

สำหรับการเตรียมความพร้อมของ กทม. ต่อเรื่องหาบเร่แผงลอยในพื้นที่ย่านถนนสีลม เพื่อรองรับการจัดประชุมระดับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค “APEC 2022 Thailand” นั้น นายชัชชาติ ระบุว่า จะให้มีความเป็นระเบียบ เพราะหาบเร่มีมานานแล้ว แต่เราก็จะดันไปให้อยู่ในพื้นที่ด้านใน แต่ถ้าจะกวาดทั้งหมด 100% ก็คงต้องใช้เวลา ต้องไม่ให้สกปรก คนต้องเดินได้ แล้วก็หาทางออกให้เขา อย่างไรก็ตาม การหาทางออกในเรื่องหาบเร่แผงลอย คงจะอยู่ในเส้นตายปี 2566 หาทางออกให้เขาได้หมด 

เมื่อถามว่า ในกรณีของเส้นทางขบวนของผู้นำที่อาจจะผ่าน ทาง กทม.จะขอความร่วมือขอให้เก็บหาบแผงก่อนหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า เราก็ไม่ได้เน้นผักชีโรยหน้า ถ้าทำก็ทำเพื่อคนไทย เราคงไม่ได้ทำเพื่อให้ชาวต่างชาติรู้สึกว่าเมืองไทยสะอาด เราทำเพื่ออยากให้คนไทยเดินสะดวก แต่จริงๆ แล้ว ผู้นำเขาคงเคยเดินทางมาที่ประเทศไทยก่อนมีการประชุม เขาก็คงได้เห็นสภาพ แต่อย่างไรก็ตาม ก็คงจะทำให้มันดูสะอาดขึ้น ตรงนี้ ไม่ใช่สาระสำคัญที่จะต้องเคลียร์หาบเร่ เพื่อให้ผู้นำต่างชาติรู้สึกว่าบ้านเมืองสะอาด

นายชัชชาติ ยังเผยถึงความกังวลต่อการเตรียมความพร้อมของ กทม. รับการประชุมเอเปค ว่า กรณีที่มีคนลงน้ำเพื่อเรียกร้อง ตรงนี้ก็จะเป็นในส่วนของฝ่ายความมั่นคงที่ต้องรับผิดชอบ เราดูในเรื่องของการรักษาความสะอาดเรียบร้อย และการนำหน่วยบรรเทาสาธารณภัยไปประจำจุดต่างๆ ซึ่งตอนนี้พร้อมแล้ว เมื่อช่วงเช้าได้ไปติดตามที่สวนเบญจกิติ พบว่าฝ่ายความมั่นคงเริ่มเข้าพื้นที่แล้ว ไม่มีอะไรที่น่าห่วง ทั้งนี้ สำหรับเรื่องพื้นที่ชุมนุมอยู่นอกพื้นที่จัดการประชุมเอเปค จัดในพื้นที่ที่กำหนดไว้ ซึ่งอาจจะต้องเตรียมรับสถานการณ์ และตั้งวอร์รูมใกล้ๆ พื้นที่ คาดว่าจะตั้งบริเวณสวนเบญจกิติ เพื่อให้ใกล้สถานการณ์ เพราะเรามีสำนักงานเราอยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว 

ส่วนเย็นวันนี้ที่สวนเบญจกิติ จะมีการเปิดน้ำพุ นายชัชชาติ กล่าวว่า จริงๆ แล้วน้ำพุเป็นสิ่งที่มีมานานแล้ว แต่ชำรุดไปช่วงที่ทำเขื่อน ซึ่งล่าสุดเมื่อคืนไปดูมา ตนมองว่าสวยดี ลักษณะการสานกันของน้ำพุ สอดคล้องกับโลโก้ของเอเปค ซึ่งเป็นรูปชะลอม อย่างไรก็ตาม หัวใจหลักคือประชาชน จะได้ชื่นชมกับความสวยงามของน้ำพุ

ต่อมาเวลา 12.30 น. นายชัชชาติ ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาด และกลุ่มงานระบายน้ำและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของสำนักงานเขตบางรัก จำนวน 5 คน ที่ได้รับคัดเลือกเป็นผู้มีความขยัน รับผิดชอบต่อหน้าที่ ตรงต่อเวลา ให้ความร่วมมือในภารกิจและอุทิศเวลาให้กับราชการ ประกอบด้วย 1.น.ส.ราตรี ขํางิ้ว พนักงานทั่วไป (กวาด) อายุ 57 ปี 2.น.ส.ประเดิม วิชา พนักงานทั่วไป (กวาด) อายุ 39 ปี 3.นายรณชัย บุญธรรมโชติ พนักงานทั่วไป (เก็บขนมูลฝอย) อายุ 33 ปี 4.นายสุทธิพันธ์ ยอมาดาร์ พนักงานขับเครื่องจักรกลขนาดเบา (เก็บขนมูลฝอย) อายุ 47 ปี และ 5.นายสุชาติ บุญโสพิศ พนักงานทั่วไป (ระบายน้ำ) อายุ 45 ปี บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น สอบถามสารทุกข์สุขดิบ เรื่องครอบครัว การศึกษาของบุตร การบรรจุ 

สำหรับเมนูอาหารวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็น 1.ข้าวหมกไก่ จากชุมชนซอยวัดม่วงแคมัสยิดฮารูณ ที่สะท้อนวัฒนธรรมชาวชุมชน 2.ข้าวหน้าเป็ด จากร้านประจักษ์เป็ดย่าง ร้านอาหารเก่าแก่ตํานานโอชาเกิน 100 ปี ที่ส่งต่อกิจการมาถึงรุ่นที่ 4 เนื้อเป็ดชิ้นหนานุ่ม เคล้ากลิ่นหอมจากเครื่องเทศ และ 3.เย็นตาโฟวัดแขก เย็นตาโฟเจ้าดังย่านตลาดวัดแขก ที่จะเอามัดใจสายเส้นได้อยู่หมัด

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางรัก และรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับลูกจ้างแล้วนั้น นายชัชชาติและคณะผู้บริหารได้ร่วมกันเดินเท้าตรวจเยี่ยมจุดก่อสร้างขนาดใหญ่ โครงการดุสิต เซ็นทรัลพาร์ค ตรวจเยี่ยมการปรับปรุงภูมิทัศน์ และการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย ถนนสีลม ช่วงตั้งแต่แยกศาลาแดง ถึงถนนคอนแวนต์ ลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนในชุมชนศรีเวียง และชุมชนซอยวัดม่วงแคมัสยิดฮารูณ เพื่อพบปะพูดคุยสอบถามรับทราบในปัญหาต่างๆ.