นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวถึงกรณีที่อดีตไวยาวัจกรวัดสระเกศฯ ทำหนังสือร้องเรียนมาที่กรมศิลปากร ว่า เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ สั่งปรับภูมิทัศน์ รื้อรั้วมีตราสัญลักษณ์ “ส ด” ของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อยู่ ญาโณทยมหาเถระ) จึงอยากขอให้กรมศิลปากรสั่งระงับด่วน เพราะตราสัญลักษณ์ดังกล่าวเป็นอนุสรณ์ให้ศิษย์ได้ระลึกถึง ว่า จากการส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบพบว่า วัดสระเกศฯ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน แต่ไม่ได้มีการกำหนดเขต ดังนั้นการที่จะมีการบูรณะอะไรในพื้นที่วัดจะต้องทำหนังสือขออนุญาตกรมศิลปากร และเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ได้ทำหนังสือขออนุญาตอย่างถูกต้องมาตั้งแต่ตอนที่นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศิลปากร โดยขออนุญาตบูรณะหมู่กุฏิสงฆ์ และโรงเรียนพระปริยัติธรรม ส่วนรั้วที่มีตราสัญลักษณ์ “ส ด” ของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อยู่ ญาโณทยมหาเถระ) นั้นยังอยู่ปกติ ไม่ได้มีการรื้อแต่อย่างใด รั้วที่มีการรื้อออกไปเป็นรั้วที่ไม่มีตราสัญลักษณ์ ขณะที่ประตูรั้วที่มีตราสัญลักษณ์ “ส ด” ที่มีภาพออกมาว่ามีการถอดออกมานั้น เป็นการถอดออกมาชั่วคราว สืบเนื่องมาจากการบูรณะรั้วโรงเรียนพระปริยัติธรรม และได้มีการติดตั้งไว้เช่นเดิมแล้ว

อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวต่อไปว่า เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรยังพบด้วยว่า ทางวัดสระเกศฯมีการรื้อพื้นอิฐรอบพระวิหาร เพื่อทำการบูรณะใหม่ เนื่องจากมีความทรุดโทรม แต่ยังไม่ได้ขออนุญาตกรมศิลปากร จึงแจ้งของให้ระงับการดำเนินการไว้ก่อน เพื่อให้ทำหนังสือขออนุญาตมาอย่างถูกต้อง เมื่อทางเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ได้รับคำแนะนำจากทางกรมศิลปากร ก็พร้อมดำเนินการ และทำหนังสือขออนุญาตในการบูรณะพื้นบริเวณโดยรอบพระวิหารแล้ว