กรณี นายมาวิน เนตร์เดชา นักท่องเที่ยว อายุ 18 ปี ตกจากเจ็ตสกีขณะนั่งซ้อนท้ายไปกับรุ่นพี่แล้วสูญหายไป ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 24 ต.ค. บริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ระดมกำลังดำค้นหาอยู่หลายวัน กระทั่งมีการขอความอนุเคราะห์เครื่องมือสำรวจในการปฏิบัติภารกิจค้นหาร่างน้องมาวิน โดยมอบให้สำนักสำรวจด้านวิศวกรรมและธรณีวิทยา นำเครื่องสำรวจพื้นผิวใต้น้ำด้วยเทคโนโลยี Echo Sounder แบบ Multi beam ลงพื้นที่ช่วยเหลือและทำแผนที่ใต้น้ำ ร่วมกับเครื่องมือบันทึกภาพพื้นผิวท้องทะเล (Side Scan Sonar) และโดรนสำรวจใต้น้ำ จากภาคเอกชน เพื่อช่วยในการวิเคราะห์และวางแผนระบุตำแหน่งที่คาดว่าจะพบร่าง แต่ก็ยังไม่พบร่าง ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
กรมชลฯส่งเครื่องสำรวจผิวใต้น้ำช่วยค้นร่าง “น้องมาวิน”สแกนเจอวัตถุลักษณะคล้ายมนุษย์
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายทรงพล หรือผู้ใหญ่เบียร์ สุขสมบูรณ์ อายุ 36 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา และเป็นเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา จุดบางบาล เป็นหนึ่งในทีมที่ร่วมค้นหาน้องมาวิน ที่จมน้ำสูญหายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี นำทีมลงค้นหาอีกครั้ง ก่อนออกมาโพสต์รูปทีมค้นหาจากหลายหน่วยงาน ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “ผู้ใหญ่เบียร์ พิทักษ์ชีพ” พร้อมข้อความระบุว่า “ยืนยัน 100 น้องนอนหงายหน้า สภาพไม่เน่าไม่เปื่อยครับ แต่ไม่สามารถลงรูปได้นะครับ ความลึกที่ 70 เมตร สุดยอดครับ พวกเราทุกคน ผมยืนยันดูจอด้วยตัวเองเห็นมาวิน กลับไปหาแม่นะไอ้น้อง” จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่บริเวณท่าเรือเขื่อนศรีนครินทร์ พบทีมนัดประดาน้ำเกือบ 20 ทีม จาก 4 ภาค กำลังร่วมวางแผนเตรียมการค้นหา น้องมาวิน อีกรอบ โดยมี ว่าที่เรือตรีกฤษณะ พิมพานนท์ เจ้าหน้าที่เวชศาสตร์ใต้น้ำ กองทัพเรือ พร้อมทีมงานเชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ จีพีเอส ในการตรวจค้นหาพิกัดบนผิวน้ำ เพื่อวางจุดพิกัดให้แต่ละทีมงาน แต่ละชุดก่อนลงค้นหา โดยแยกไปในแต่ละมุมค้นหาเข้าหากัน โดยต้องมีการวางทีมงานไว้ขั้นเป็นตอนเป็นชั้นๆ เนื่องจากพื้นที่ใต้น้ำของอ่างเขื่อนศรีนครินทร์ ไม่ใช่พื้นที่เรียบ มีทั้งไม้ขนาดใหญ่ รวมถึงยอดเขาจมอยู่ภายใต้อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ สลับทับซ้อนกัน โดยในครั้งแรกมีอุปสรรคมาก เนื่องจากต้องรอแต่ละทีมลงพื้นที่ โดยครั้งนี้ ทีมค้นหาจะใช้เวลาเพียง 2 วัน หากไม่พบจะยกเลิกภารกิจทันที
ว่าที่เรือตรีกฤษณะ กล่าวถึงภารกิจการค้นหาในครั้งนี้ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ เรามีอุปกรณ์ มีกำลังพล พร้อม ก่อนลงค้นหา เราต้องมีการสำรวจก่อน เพื่อสะดวกรวดเร็วในการค้นหา โดยเฉพาะโดรนใต้น้ำนั้น จะลงใต้น้ำมีความจำกัดความลึกไม่ให้เกินพิกัด คือ 40 เมตร ยากลำบากคือป่าเขาอยู่ใต้น้ำ ก่อนส่งนักประดาน้ำลงไป ก็ต้องพึงระวังในเรื่องความลึก เพื่อความปลอดภัย
นายทรงพล หรือผู้ใหญ่เบียร์ ผู้สนับสนุนสมาคมอยุธยารวมใจ กล่าวว่า การค้นหารอบใหม่อีกรอบนี้ ต่างกับรอบแรก เนื่องจากทุกทีมที่ไปค้นหาด้วยใจ มีความพร้อมกว่าครั้งแรก ใช้อุปกรณ์ทันสมัย มีการวางแผนก่อนการลงใต้น้ำ เป็นขั้นเป็นตอน ต่างกับครั้งแรก แต่ละทีมลงไปโดยไม่มีการวางแผนร่วมกันก่อน ไม่มีความพร้อมเช่นครั้งนี้ และครั้งนี้พร้อมมากเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ มั่นใจการค้นหาครั้งนี้เกิน 90 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่นำกันมา มีความพร้อมถึง 100 เปอร์เซ็นต์ ทีมค้นหาใต้น้ำจำนวนมากมากันด้วยใจจริงๆ และอยากฝากให้กำลังใจทางญาติของผู้สูญเสีย
ผู้ใหญ่เบียร์ กล่าวอีกว่า รวมถึงทีมค้นหาที่ได้เดินทางมาทั้งหมดด้วย ดีใจแทนญาติผู้สูญเสียด้วย ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่มีทีมค้นหาลงมามาก และพร้อมขนาดนี้ โดยเฉพาะท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายกเทศบาลตำบลเอราวัณ ได้สนับสนุนอำนวยความสะดวกทั้งเต็นท์และอื่นๆ กับทีมงานการค้นหาในครั้งนี้ โดยการค้นหารอบใหม่นี้ จะใช้เวลาเพียง 2 วัน คาดว่าครั้งนี้น่าจะละเอียดมากกว่าครั้งแรก อุปกรณ์ที่นำมาครั้งนี้ชัดเจนและแม่นยำกว่า ใต้น้ำอุปสรรคมีมากมาย คาดว่าร่างของน้องที่ไม่ขึ้นเหนือน้ำ อาจจะไปติดกิ่งของต้นไม้ก็เป็นได้
