ฤดูหนาวนอกจากสภาพอากาศจะมีความโดดเด่น และช่วงเวลานี้แม้บางพื้นที่จะมีฝนตกลงมาเติมความชุ่มฉํ่า ยังมีความงามของ ดอกไม้ ใบไม้ สีสันสวยให้เที่ยวชม เพิ่มบรรยากาศสดชื่นเติมเสน่ห์ให้กับฤดูกาล อีกทั้งยอดดอยยังมี ทะเลหมอก และหากอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิลดลงอีก นํ้าค้างบริเวณยอดหญ้าจะเป็นเกล็ดนํ้าแข็งขาวโพลน มีปรากฏการณ์ “แม่คะนิ้ง” อวดโฉมให้ชม อีกสัญญาณจากธรรมชาติที่บอกเล่ามนต์เสน่ห์ฤดูหนาว

ทุกฤดูกาลธรรมชาติจะมีสัญญาณบ่งบอกถึงการเปลี่ยนผ่านของฤดูกาล ดังเช่นฤดูหนาวก่อนจะมาถึง นอกจากความชุกของฝนจะลดลงยังมีสายลมเย็น ๆ ลมหนาวพัดผ่านให้สัมผัส หากสังเกตจะเห็นว่า คํ่าเร็วเช้าช้า ซึ่งเป็นอีกสัญญาณบอกถึงฤดูหนาวมาถึง และยังไม่นับ ความชื้นในอากาศ ที่สัมผัสได้เด่นชัด

เมื่อเข้าสู่หน้าหนาว ความชื้นในอากาศจะลดลง จะรู้สึกได้ว่าผิวแห้งแตกเป็นขุย อีกสัญญาณให้สังเกตเตรียมพร้อมดูแลสุขภาพ และด้วยสภาพอากาศมีความโดดเด่น หนึ่งในความงามน่าชม “แม่คะนิ้ง” โดยเมื่อเกิดขึ้นครั้งใดก็มักสร้างความตื่นตาตื่นใจ ทั้งนี้พาสัมผัสปรากฏการณ์ธรรมชาติดังกล่าวโดย ดร.ภาณุ ตรัยเวช ภาควิชาวิทยาศาสตร์พื้นพิภพ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ความรู้ว่าสัญญาณของฤดูหนาวสังเกตได้หลายอย่าง บางครั้งอาจดูได้จากลมมรสุม ทิศทางของลมที่พัดก็ได้ หรือดูจากความชื้นในอากาศก็ได้อีกเช่นกัน

สำหรับความสวยงามของผลึกนํ้าแข็งแม่คะนิ้ง นํ้าค้างแข็งที่กล่าวถึงมีความต่างกันอยู่พอสมควร แม่คะนิ้ง ปัจจัยที่จะเกิดขึ้นคืออุณหภูมิตํ่า อากาศมีความหนาวเย็นจริง ๆ ดร.ภาณุอธิบายเพิ่มอีกว่า ในอากาศมีไอนํ้า แต่หากมีมากเกินไปไอนํ้าจะกลั่นตัวเป็นหยดนํ้า อย่างเช่นการเกิดฝน เมฆฝนกลั่นตัวเป็นหยดนํ้า โดยสิ่งที่เป็นตัวแปรสำคัญคือ อุณหภูมิ

นํ้าค้าง มักเกิดขึ้นตอนเช้า ที่เกิดช่วงเวลานี้เพราะช่วงเวลากลางวันอากาศร้อน ส่วนช่วงเย็น แม้อากาศจะเย็นลง แต่พื้นดินยังคงมีความอุ่นอยู่จึงต้องรอคอยเวลา โดยช่วงกลางคืน พื้นดินจะค่อย ๆ คลายความร้อนลง ถึงช่วงรุ่งเช้าพื้นดินคลายความร้อนลงหมด อากาศเริ่มเย็นนํ้าที่อยู่บริเวณพื้นดินจะกลั่นตัวเป็นหยดนํ้า และหยดนํ้าเหล่านี้ก็คือ นํ้าค้าง เกาะอยู่ตามใบหญ้า ยอดหญ้า ฯลฯ โดยถ้าเป็นฤดูหนาว อากาศเย็นลงง่ายกว่าปกติการเกิดขึ้นของนํ้าค้างจะเกิดขึ้นได้ง่าย

“อากาศหนาวเย็นจัดที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์แม่คะนิ้ง เกิดนํ้าค้างที่แข็งตัวเกาะอยู่ตามยอดหญ้า ใบไม้ อยู่ใกล้พื้นดิน การเกิดขึ้นจะต้องดูที่ process แต่ทั้งนี้ แม่คะนิ้ง และนํ้าค้างแข็ง เกิดจากไอนํ้าเหมือนกัน

จุดเริ่มต้นของแม่คะนิ้ง และนํ้าค้างแข็ง เกิดจากไอนํ้าที่ลอยอยู่ในอากาศเหมือนกัน เปลี่ยนรูปไปเป็นของแข็ง เกล็ดนํ้าแข็ง หรือหยดนํ้าค้างแข็งเมื่ออุณหภูมิลดลงตํ่าอย่างรวดเร็ว แต่ในขั้นตอนของการเปลี่ยนรูปจะมีลักษณะที่ต่างกัน”

แม่คะนิ้ง เป็นอีกสัญญาณที่บ่งบอกสภาพอากาศหนาวเย็นที่ต่างไปจากเดิม ที่ผ่านมาได้อวดโฉมให้ชมกันไปเมื่อช่วงต้นฤดูหนาว แม่คะนิ้ง เมื่อเกิดขึ้นแล้วช่วงสายสักหน่อยจะค่อยจางไปกลายเป็นนํ้า และนอกจากความสวยงามชวนตื่นตาตื่นใจ แม่คะนิ้งยังเชื่อมโยงการเรียนรู้ธรรมชาติ อีกหลายแง่มุม

อาจารย์จากภาควิชาวิทยาศาสตร์พื้นพิภพ ดร.ภาณุ อธิบายเพิ่มอีกว่า แม่คะนิ้งเป็นส่วนหนึ่งที่ชี้ให้เห็นสภาพอากาศ อุณหภูมิ ระดับความชื้นในอากาศมากน้อยอย่างไร ประเทศไทยแม้อุณหภูมิจะไม่ค่อยเปลี่ยน และมักพูดกันว่าร้อน ซึ่งก็เป็นจริง อากาศของบ้านเราค่อนข้างร้อนตลอดปี แต่หากดูที่ความชื้น มีความต่างกัน อากาศร้อนในเดือนต่าง ๆ จะไม่เหมือนกัน สัมผัสรับรู้ได้ต่างกัน ความชื้น ความแห้งของอากาศมีความสำคัญ น่าศึกษาเช่นกัน

ขณะที่แม่คะนิ้งที่เกิดขึ้น เป็นอีกสีสัน เติมเสน่ห์ให้กับฤดูหนาว เป็นจุดหมายการเที่ยวชมสัมผัสอากาศหนาวเย็น นอกจากเป็นสัญญาณธรรมชาติบอกเล่าฤดูกาล ช่วงหน้าหนาวจากที่กล่าวมีสัญญาณธรรมชาติ มีความสวยงามของธรรมชาติให้สังเกตอีกไม่น้อย อย่างเช่น เมฆ บนท้องฟ้าจะต่างไปจากฤดูฝน จะเห็นเป็นริ้ว ๆ หรืออีกลักษณะจะเห็นเมฆปกคลุมทั่วท้องฟ้า อากาศจะหม่นลง ฯลฯ

นอกจากนี้ที่เป็นสัญญาณของฤดูกาลเป็นสีสันที่มีมนต์เสน่ห์ยังมี ใบไม้เปลี่ยนสี โดยบางชนิดเปลี่ยนจากใบเขียวเป็นสีแดง สีส้ม เติมความงามให้กับธรรมชาติต่างไปจากความเขียวสดชื่นตลอดปี อย่างเช่น ใบเมเปิ้ล ในพื้นที่อุทยานฯ ขณะที่ ดอกไม้ ก็เช่นกัน หลายชนิดผลิบานรับลมหนาว โดยช่วงเวลานี้หลายสถานที่เป็นจุดหมายจุดเที่ยวชมทุ่งดอกไม้

อีกทั้ง ทะเลหมอก ก็เช่นกัน ทะเลหมอกคือเมฆอย่างหนึ่ง ปกติเมฆจะลอยสูงบนท้องฟ้าให้ความสวยงามชวนมองเพลิดเพลินซึ่งก็คล้ายกันกับหมอกสวยงามของฤดูหนาวที่จะมองเห็นและสัมผัสได้ใกล้ชิด ฯลฯ เป็นอีกความงามของธรรมชาติ เป็นสัญญาณธรรมชาติที่น่าศึกษา…

เติมเต็มบรรยากาศฤดูหนาวมีชีวิตชีวา มีมนต์เสน่ห์.

พงษ์พรรณ บุญเลิศ