นายภูษิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่น 5 จังหวัดชายแดนใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา และสตูล กลุ่มตัวอย่าง 32,000 คน ประจำไตรมาสสองปี 64 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นจังหวัดชายแดนใต้โดยรวมลดลงเหลือ 50.9 จากไตรมาสแรกที่อยู่ 52.74 ซึ่งลดลงทั้งความเชื่อมั่นในปัจจุบันและอนาคต อีกทั้งเมื่อจำแนกรายละเอียดพบว่าความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจและสังคมได้ปรับตัวลดลงมาก ยกเว้นดัชนีความมั่นคงที่ปรับตัวสูงขึ้น
“ดัชนีความเชื่อมันด้านเศรษฐกิจลดลงจากไตรมาสแรก 52.17 เหลือ 46 ขณะที่ดัชนีด้านสังคมลดจาก 50.26 เหลือ 50.14 ยกเว้นดัชนีด้านความมั่นคงตัวเดียวเพิ่มขึ้นจาก 52.79 เป็น 54.45 โดยประเด็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่มีความคล้ายคลึงกัน ซึ่งปัญหาด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ เรื่องค่าครองชีพ ราคาสินค้าและบริการสูง รายได้ตกต่ำ การว่างงาน ส่วนปัญหาในด้านสังคม คือปัญหายาเสพติด สำหรับความต้องการที่ประชาชนต้องการให้แก้ไขมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ เรื่องลดภาระค่าครองชีพ ราคาสินค้า การมีงานทำและรายได้ และราคาสินค้าเกษตร”
นอกจากนี้ เมื่อจำแนกเป็นรายจังหวัดพบว่าดัชนีความเชื่อมั่นไตรมาส 2 ปรับลดลงในทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดปัตตานี และยะลา มีดัชนีลดต่ำจนถึงระดับไม่มีความเชื่อมั่น ขณะที่สตูลมีความเชื่อมั่นสูงที่สุด และยะลามีความเชื่อมั่นต่ำที่สุด ซึ่งจากผลสำรวจดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์จะร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) นำไปใช้ประโยชน์ในการติดตามหรือประเมินผลการพัฒนาในพื้นที่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายภูษิต กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เข้าไปเร่งช่วยแก้ไขปัญหาค่าครองชีพและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในพื้นที่แล้ว ได้แก่ โครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน การส่งเสริมตลาดสินค้าอัตลักษณ์และเพิ่มขีดความสามารถทางการค้าภาคใต้ การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการสู่การเป็นนักการตลาดมืออาชีพยุค นิวนอร์มัล การจัดกิจกรรมกระตุ้นการจำหน่ายสินค้าผ่านทางระบบออนไลน์ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และหลังจากนี้จะมีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนครั้งต่อไปในเดือน ก.ย.นี้