เมื่อวันที่ 23 พ.ย. พลโทศานติ สกุลตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พลตรีไพศาล หนูสังข์ รองผู้อำนวยการรักษาควมมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และผู้เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าเหตุคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจ อำเภอเมืองนราธิวาส โดย น.ท.อำนาจ ผบ.ฉก.นย.ทร.33 ได้กล่าวบรรยายสรุปพร้อมทำแผนผังมาแสดงถึงพฤติกรรมของคนร้าย ที่นำรถยนต์ซุกซ่อนระเบิดมาจอดภายในบริเวณแฟลตเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองนราธิวาส

หลังจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ไล่วงจรปิดจนทราบพฤติกรรมของกลุ่มคนร้าย โดยในเวลา 12.35 น. คนร้ายได้ขับรถกระบะที่ซุกระเบิดผ่านด่านจุดตรวจริมน้ำ โดยมุ่งหน้ามาจากพื้นที่บ้านค่าย อ.เมืองนราธิวาส โดยมีรถ จยย. 1 คัน ซึ่งผู้ขับขี่ใส่เสื้อลายสก๊อตตามหลังกันมา เมื่อถึงแยกโจโจ้ คนร้ายทั้ง 2 คัน ได้เลี้ยวซ้ายขับผ่าน 4 แยกไฟแดงตรงไปยังด้านหลังของเรือนจำเก่า จากนั้นคนร้ายได้เลี้ยวขวาขับตรงมาแล้วเลี้ยวซ้ายตรงกำแพงของรั้วโรงเรียนนราสิกขาลัย แล้วมากลับรถที่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส

โดยคนร้ายที่ขี่รถ จยย.ติดเครื่องยนต์มาจอดที่บริเวณหน้าประตูแฟลต เวลา 12.38 น. ซึ่ง 1 นาทีต่อมา คนร้ายที่ขับรถยนต์กระบะซุกระเบิดได้ขับเลี้ยวซ้ายเข้าไปจอดที่บริเวณแฟลตตำรวจ หลังจากนั้นเวลา 12.40 น. คนร้ายเมื่อจอดรถยนต์ซุกระเบิดเป็นที่เรียบร้อยได้เดินออกจากแฟลตไปซ้อนท้ายรถ จยย.ของคนร้ายซึ่งใส่เสื้อลายสก๊อตหลบหนีไป ต่อมาเพียง 4 นาทีให้หลังได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น ในขณะที่คนร้ายทั้ง 2 คน ขี่และซ้อนท้ายรถ จยย.อยู่บริเวณทางออกของจุดตรวจริมน้ำพอดี

รายงานจากแหล่งข่าวความมั่นคงนายหนึ่ง เปิดเผยว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นกลุ่มของนายซากีมัน กูบารู ที่รับผิดชอบเคลื่อนไหวก่อเหตุร้ายในพื้นที่ อ.ตากใบ และรอยต่อ อ.สุไหงโก-ลก และอำเภอเมืองนราธิวาส ซึ่งทำงานด้วยกัน 4 คน ส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่ใช้ก่อเหตุคาดว่าน่าจะมีการประกอบในพื้นที่ อ.ตากใบ

ต่อมาหลังจากแม่ทัพภาคที่ 4 ดูจุดเกิดเหตุประมาณ 10 นาที ได้เปิดเผยว่า รถยนต์ก่อเหตุเป็นรถที่ซื้อต่อๆ กันมา กำลังให้ตำรวจตรวจสอบ วันผู้ซื้อคนสุดท้ายและนำเข้าสู่กระบวนการสอบสวน ยอมรับว่ารถลักษณะนี้ยากต่อการป้องกันอยู่บ้าง แต่จะพยายามอย่างเต็มที่ป้องกันการก่อเหตุในพื้นที่ต่างๆ การตรวจสอบอาจจะยากแต่ไม่เกินความสามารถของเจ้าหน้าที่รัฐ ได้เน้นย้ำในเรื่องของรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่สูญหายไปตั้งแต่ปี 2560 ให้ทุกส่วนนำข้อมูลแจกจ่ายให้กับทุกด่านทุกพื้นที่ เพื่อป้องกันสกัดกั้นที่จะนำรถมาประกอบระเบิดมาก่อเหตุ

“อยากจะประณามผู้ก่อเหตุที่มาก่อเหตุระเบิดในพื้นที่ชุมชน ใกล้กับสถานศึกษา เด็กๆ กำลังเรียนหนังสือ ทำให้เด็กๆ เกิดความตื่นตระหนกตกใจ ในฐานะแม่ทัพภาคที่ 4 จะพยายามป้องกันและดูแลเยียวยาสภาพจิตใจของทุกๆ คน”

นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายในพื้นที่เมือง ซึ่งตั้งแต่ก่อนการประชุมเอเปค มีการเตรียมการป้องกันกันอยู่ตลอดเวลา พร้อมฝากถึงประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ หรือจุดไหนที่เป็นข้อผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร่งด่วนทันที.