คอรี ลี บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวชื่อดังชาวสหรัฐ ซึ่งป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงตั้งแต่อายุ 2 ขวบ และต้องใช้ชีวิตบนเก้าอี้รถเข็นมาโดยตลอด เล่าประสบการณ์โดน “เลือกปฏิบัติ” จากสายการบินเดลตา ลงในอินสตาแกรมของเขา 

แม้ ลี จะต้องนั่งเก้าอี้รถเข็น แต่เขาก็รักการเดินทาง เขามักจะได้ลงจากเครื่องบินเป็นคนสุดท้ายเสมอ เพราะต้องรอให้มีผู้นำเก้าอี้รถเข็นของเขามารับที่สะพานเทียบเครื่องบิน ลี บอกว่า เก้าอี้รถเข็นของเขาหนักราว 180 กก. จึงต้องใช้เวลาพอสมควรในการขนย้าย

ในวันที่ 13 พ.ย. 2565 ลี ซึ่งกลับจากเดินทางและกำลังจะลงจากเครื่อง และเมื่อเขาเห็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน นำอุปกรณ์เตรียมขนย้ายและนำส่งผู้โดยสารที่ต้องใช้เก้าอี้รถเข็นลงจากเครื่อง เขาจึงออกปากถามว่า เก้าอี้รถเข็นไฟฟ้าของเขามาถึงแล้วหรือยัง

เมื่อพนักงานบอกว่า เก้าอี้รถเข็นของเขายังมาไม่ถึงสะพานเทียบเครื่องบิน เขาจึงบอกพนักงานไปว่า ขอรอบนเครื่องก่อน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายการเข้าถึงของสายการบินของสหรัฐ ที่ไม่อนุญาตให้สายการบิน “เลือกปฏิบัติ” บนพื้นฐานของความพิการในการเดินทาง

ตามกฎหมายแล้ว สายการบินจะต้องนำอุปกรณ์ที่ผู้พิการจำเป็นต้องใช้มาส่งถึงสะพานเทียบเครื่องบิน หรือจุดที่ใกล้ประตูเครื่องที่สุด ณ สนามบินที่เป็นจุดหมายปลายทาง ไม่ใช่ให้ผู้โดยสารไปรับเองที่พื้นที่รับกระเป๋าและสัมภาระ 

แต่คำขอของ ลี ที่ต้องการรอจนกว่าจะมีการนำส่งเก้าอี้รถเข็นของเขาที่สะพานเทียบเครื่อง ทำให้พนักงานต้อนรับหลายคนของสายการบินดังกล่าวไม่พอใจ พวกเขากล่าวหาว่า ลี ไม่ยอมลงจากเครื่องบินและต้องการให้เขาลงจากเครื่องก่อนที่เก้าอี้รถเข็นของเขาจะมาถึงสะพานเทียบเครื่อง

คอรี ลี ผู้ไม่ยอมให้ความพิการเป็นอุปสรรคในการเดินทางท่องเที่ยว

ลี ได้ถ่ายคลิปวิดีโอระหว่างที่พนักงานเหล่านี้เข้ามาเจรจาและกล่าวคำพูดแสดงความไม่พอใจ รวมถึงขู่ว่า ถ้าเขาไม่ยอมลงจากเครื่องและไปนั่งรอรถเก้าอี้รถเข็นของตัวเอง ก็จะให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยสนามบินมาพาเขาลงไปด้วย “อาวุธปืน” หรืออุปกรณ์อื่น ๆ

แต่โชคดีที่ต่อมาไม่นานักก็มีเจ้าหน้าที่จากสนามบินแอตแลนตา มาให้ความช่วยเหลือ พร้อมทั้งแจ้งว่า เก้าอี้รถเข็นของเขามารออยู่ที่ประตูเครื่องแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ชายผู้นั้นเป็นคนพา ลี ไปยังเก้าอี้รถเข็นของเขา และสามารถลงจากเครื่องได้ในที่สุด

ส่วนบริษัทสายการบินเดลตา ได้ออกแถลงการณ์ยอมรับความบกพร่องของพนักงาน และแจ้งว่า บริษัทกำลังสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจะติดตามผลเพื่อนำไปปรับปรุงพนักงาน รวมถึงได้ติดต่อไปยังผู้โดยสารที่ประสบเหตุไม่น่ายินดีในครั้งนี้ เพื่อขออภัยและรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม

ลี กล่าวว่า เขาเขียนอีเมลถึงบริษัทสายการบินดังกล่าวและได้รับคำตอบว่ากำลังมีการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขากล่าวว่า สายการบินควรรับฟังจากคนพิการตัวจริงอย่างเขาว่า มีความจำเป็นในการเดินทางอย่างไร และการใช้คำพูดของพนักงานส่งผลกระทบอย่างไรต่อคนที่เป็นแบบเขา

คอรี ลี เป็นนักเดินทางตัวยง เขาเริ่มออกเดินทางตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยจุดหมายครั้งแรกคือหมู่เกาะบาฮามาส เขาจบการศึกษาระดับปริญญาสาขาการตลาด จากมหาวิทยาลัยเวสต์จอร์เจีย และเชื่อว่าเขาคือคนพิการคนแรกที่ไปมาครบแล้วทั้ง 7 คาบสมุทร

นอกเหนือจากอินสตาแกรมแล้ว ลี ยังมีเว็บไซต์ของเขาเองชื่อว่า curbfreewithcorylee.com

แหล่งข่าว : foxnews.com

เครดิตภาพ : curbfreewithcorylee.com