สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมาดริด ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ว่ากระทรวงมหาดไทยของสเปนออกแถลงการณ์ ว่านายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ เคยได้รับจดหมายบรรจุ “สสารปริศนาที่อาจก่อให้เกิดการระเบิดได้” ส่งมายังบ้านพัก เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ และทำลายจดหมายฉบับดังกล่าวได้ทันเวลา

พัสดุบรรจุวัตถุต้องสงสัย ซึ่งส่งมายังสถานเอกอัครราชทูตยูเครนประจำกรุงมาดริด ประเทศสเปน


การเปิดเผยดังกล่าวเกิดขึ้น หลังสถานเอกอัครราชทูตยูเครนประจำกรุงเคียฟ และบริษัทผลิตอาวุธแห่งหนึ่งในเมืองซาราโกซา ที่อยู่ทางเหนือของสเปน และเป็นผู้ผลิตโดรนที่รัฐบาลส่งไปสนับสนุนยูเครน ได้รับจดหมายลักษณะเดียวกัน ซึ่งส่งมาทางบริการไปรษณีย์ปกติ โดยเจ้าหน้าที่ประจำสถานเอกอัครราชทูตยูเครนคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บที่นิ้วมือ ระหว่างเปิดจดหมายฉบับนั้น

เจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ด้านนอกฐานทัพอากาศ ในเขตชานกรุงมาดริดของสเปน ซึ่งได้รับจดหมายต้องสงสัยเช่นกัน


ต่อจากนั้นเมื่อวันพฤหัสบดี มีการยืนยันว่า กระทรวงกลาโหมสเปน และฐานทัพอากาศที่ตั้งอยู่ทางเหนือของกรุงมาดริด ซึ่งเป็นสถานที่ลำเลียงอาวุธที่สเปนบริจาคให้แก่ยูเครน ได้รับจดหมายปริศนาแบบเดียวกัน และภายในเวลาไล่เลี่ยกัน สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงมาดริดยืนยันการได้รับจดหมายลักษณะเดียวกัน


ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนตั้งสมมติฐาน ว่าต้นทางของจดหมายทั้งหมด “ส่งมาจากดินแดนของสเปน” ขณะที่รูปแบบของจดหมายทุกฉบับ “เป็นไปในทางเดียวกัน” แต่ยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ ว่าเป็นการก่อการร้ายหรือไม่ และยังไม่มีการพาดพิงถึงบุคคลกลุ่มใดอย่างเจาะจง ทว่านายเซอร์ฮี โปโฮเรลต์เซฟ เอกอัครราชทูตยูเครนประจำกรุงมาดริด กล่าวโทษรัสเซียว่าอยู่เบื้องหลัง


ส่วนนายดมิโทร คูเลบา รมว.กระทรวงการต่างประเทศยูเครน สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตยูเครนทุกแห่งบนโลกยกระดับมาตรการทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลสเปนตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด.

เครดิตภาพ : REUTERS