สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีแห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงให้การต้อนรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่พระราชวังอัล-ยามามา ในกรุงริยาด ในโอกาสที่ประธานาธิบดีจีนเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ


ทั้งนี้ เมื่อเครื่องบินประจำตำแหน่งของผู้นำจีนเข้าสู่น่านฟ้าของซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กองทัพอากาศซาอุดีอาระเบียส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นอารักขา และคอยประกบอย่างใกล้ชิดจนกระทั่งเครื่องบินลงจอด ซึ่งสีได้รับการต้อนรับจากคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลริยาด ขณะที่กองทหารเกียรติยศยิงสลุต 21 นัด


บรรยากาศดังกล่าวเป็นที่จับตาและได้รับการวิเคราะห์จากหลายฝ่ายว่า “แตกต่างอย่างสิ้นเชิง” เมื่อเทียบกับการเยือนอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ด้านรัฐบาลวอชิงตันวิจารณ์การเยือนกรุงริยาดของผู้นำจีน “เป็นความพยายามขยายอิทธิพล” ของรัฐบาลปักกิ่ง และแสดงความเชื่อมั่นว่า ภารกิจของสี “จะไม่ส่งผลกระทบในทางใดต่อการดำเนินนโยบาย” ของสหรัฐในตะวันออกกลาง

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน และเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ที่พระบรมมหาราชวัง ในกรุงริยาด


ด้านสื่อท้องถิ่นหลายแห่งของซาอุดีอาระเบียพร้อมใจกันเผยแพร่บทความพิเศษของผู้นำจีน มีเนื้อหาสำคัญเป็นการแสดงความมุ่งมั่นว่า “การเยือนครั้งบุกเบิก” หรือครั้งประวัติศาสตร์ จะนำไปสู่ “การเปิดประตูบานใหม่ให้กับความสัมพันธ์” ระหว่างจีนกับโลกอาหรับ ซึ่งมีแต่จะสนับสนุนกันและกัน เพื่อการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน โดยปราศจากการแทรกแซงกิจการภายในของอีกฝ่าย


อนึ่ง สำนักข่าวแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย ( เอสพีเอ ) รายงานเพิ่มเติม ว่าจีนและซาอุดีอาระเบียลงนามร่วมกันในบันทึกความเข้าใจ ( เอ็มโอยู ) และกรอบความร่วมมือรวม 34 ฉบับ ครอบคลุมประเด็นเกี่ยวกับพลังงานสีเขียว เทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการระบบคลาวด์ การคมนาคม การก่อสร้าง และอีกมากมาย


ขณะที่ เจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รมว.พลังงานซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า รัฐบาลริยาด “จะยังคงเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจ” ของจีนในด้านพลังงาน และทรงแสดงความเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในเรื่องนี้จะก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป อนึ่ง ปัจจุบันจีนเป็นประเทศผู้นำเข้าพลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลก.

เครดิตภาพ : REUTERS