ในวันที่การเกษตรสมัยใหม่ หรือ Smart Farming กำลังก้าวเข้ามาเปลี่ยนแปลงการทำเกษตรให้แตกต่างไปจากเดิม มีคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยที่อยากหวนกลับบ้าน โดยเฉพาะลูกหลานเกษตรกรที่ตัดสินใจเลือกเปลี่ยนเส้นทางชีวิตจากงานประจำในเมืองกรุงสู่เจ้าของพื้นที่ทำเกษตรในอ้อมกอดของบ้านเกิดที่แสนอบอุ่น โดยใช้ความรู้ความสามารถที่มีมาประยุกต์ใช้กับพื้นที่การเกษตร และได้ค้นพบว่า การทำเกษตร คือความสุขอย่างแท้จริงที่อยู่ไม่ไกลตัว


ตั้ม – นิพนธ์ พิลา เกษตรกรดีไซน์เนอร์ เจ้าของ “วิสาหกิจชุมชนพิลาฟาร์มสตูดิโอ” ผู้ตัดสินใจเลือกกลับบ้านเกิดเพื่อสานต่ออาชีพเกษตรกรของพ่อแม่ โดยใช้ความสามารถทางด้านแฟชั่นที่มีกว่า 20 ปี มาแต่งเติมสีสันและไอเดียสุดบรรเจิดบนบรรจุภัณฑ์สินค้าเกษตรของ ตำบลน้ำชุน อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ อีกทั้งยังเปลี่ยนพื้นที่การเกษตรที่เคยใช้สารเคมี ให้กลายเป็นพื้นที่เกษตรแบบอินทรีย์ที่มีกระบวนการเพาะปลูกด้วยความประณีต แน่นอนว่าการออกแบบพื้นที่การเกษตรกรย่อมเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีเครื่องมือช่วยจัดการฟาร์มได้ดีและพิถีพิถันที่สุด จนเขาได้มาพบกับ “แทรกเตอร์คูโบต้า” ที่ตอบโจทย์แนวคิดของเกษตรกรสายแฟชั่นได้เป็นอย่างดี ด้วยการมีเครื่องมือช่วยยกร่องให้ฟาร์มมีความเป็นระเบียบ สวยงาม ทรงพลังและเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพในการทํางาน จึงทำให้ผักอินทรีย์จาก “พิลาฟาร์มสตูดิโอ” กลายเป็นผักที่เติบโตอย่างมีคุณภาพจนถึงมือผู้บริโภคอย่างปลอดภัย แถมยังเป็นการส่งต่อความสุขและแรงบันดาลใจให้คนที่อยากกลับไปทำเกษตรที่บ้านเกิดเช่นเดียวกัน


ยา-กัลยา พงสะพัง เจ้าของไร่ปรียา จังหวัดขอนแก่น อดีตผู้รับเหมาที่พบความสุขจากการเป็นเกษตรกรและปลดหนี้ 7 หลักได้จากการทำเกษตร จากอดีตที่เคยมองว่าอาชีพเกษตรกรไม่มีความสุข จนได้พบว่า การตามหาความฝันในเมืองกรุงไม่ใช่เรื่องง่ายยิ่งในวันที่ต้องมีหนี้ถึง 7 หลัก ทำให้กัลยาตัดสินใจกลับบ้านเกิดมาทำอาชีพเกษตรกร อาชีพที่ครอบครัวถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมายาวนาน และได้พบคำตอบว่า “ความสุขที่แท้จริงและยั่งยืน” ของตัวเอง คือ “การทำเกษตร” กัลยาเปลี่ยนพื้นที่ 43 ไร่ของครอบครัวให้กลายเป็นเกษตรแบบอินทรีย์ทั้งปลูกข้าว พุทรา ฝรั่ง แก้วมังกร และผักหมุนเวียน พร้อมกับมีผู้ช่วยคู่ใจอย่างแทรกเตอร์คูโบต้าเข้ามาเป็นเครื่องมือบริหารจัดการแปลงเกษตรได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ก็ยังมองหาช่องทางการตลาดใหม่ๆ สร้างผลผลิตที่มีให้เกิดมูลค่าเพิ่ม จนในที่สุดอาชีพเกษตรกรก็ทำให้ปลดหนี้ทั้งหมดที่มีแถมยังสร้างกำไรที่ยั่งยืน อีกทั้งยังเติมเต็มกำลังใจและความสุขให้กับกัลยาและทุกคนในครอบครัวอีกด้วย


ปอ-ธนวัฒน์ มโนวชิรสรรค์ เจ้าของแบรนด์ “สวนบ้านแม่” นักออกแบบผู้ตัดสินใจเดินทางกลับสู่อ้อมกอดของแม่ที่บ้านเกิดในจังหวัดพังงา เพื่อกลับมาทำสวนมังคุดบนพื้นที่กว่า 30 ไร่ อาชีพดั้งเดิมของครอบครัว โดยดึงความรู้ด้านการออกแบบมาประยุกต์ใช้ไปพร้อมๆ กับอนุรักษ์ภูมิปัญญาในการทำเกษตรแบบดั้งเดิมของแม่ จนพบว่ารายได้ของชาวสวนไม่มากนัก เนื่องจากปลูกแล้วก็ต้องขายให้พ่อค้าคนกลาง จึงจุดประกายให้อยากทำในสิ่งที่มีอยู่ให้มีคุณค่ามากขึ้น พร้อมทั้งต่อยอดการขายออนไลน์ และจากการตั้งคำถามในวันหนึ่งว่า จะทำอย่างไรก็ได้ให้มังคุดสดๆ ส่งไปถึงปลายทางในสภาพที่ยังสดที่สุด ในที่สุดก็ได้จุดประกายไอเดียสู่แบรนด์ “สวนบ้านแม่” มังคุดสีแดง สดใหม่ ที่บรรจุในชะลอมอย่างสวยงามส่งตรงถึงผู้บริโภคเสมือนเด็ดทานสดๆ จากต้น แบรนด์ที่ประสบการณ์ให้กับลูกค้าคนเมืองได้รู้ว่ามังคุดสดๆ จะต้องมีผิวเปลือกสีแดงเท่านั้น แต่ความสำเร็จที่ได้มาก็ต้องมีเครื่องจักรกลการเกษตรที่เข้ามาช่วยเติมเต็มความฝันให้สมบูรณ์ เพราะการจะทำสวน 30 ไร่ คนเดียวถ้าไม่มีเครื่องจักรจะใช้เวลายาวนานมาก และเขาก็ได้นำแทรกเตอร์คูโบต้าของพ่อมาฝึกฝนจนชำนาญและกลายเป็นผู้ช่วยสำคัญของ “สวนบ้านแม่” เป็นความอุ่นใจที่อยู่เคียงข้างความสำเร็จ
สนใจแทรกเตอร์คูโบต้าสามารถลงทะเบียนรับโปรโมชันสุดพิเศษได้ที่ https://bit.ly/3y5L3U5 #KUBOTA #คูโบต้า #นวัตกรรมเกษตรเพื่ออนาคต #แทรกเตอร์คูโบต้า #ต้นแบบความสุขที่ปลูกเองได้